วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

หมอบุ๋ม นางสาวไทยคนใหม่


นางสาวไทยคนใหม่ประจำปีนี้เธอมีชื่อว่า น้องบุ๋ม พรรณประภา ยงตระกูล อายุ 20 ปี สูง 167 ซม กำลังเรียนอยู่คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์

มีคนบ่นว่า นางสาวไทยปีนี้เป็นเด็กจุฬา แถมเรียนหมออีกต่างหาก บางคนบอกว่า เป็นนางสาวไทยเพราะโพรไฟล์ แต่ในภาพรวม กบคิดว่า หมอบุ๋มคนนี้ก็น่าจะได้รับการยอมรับมากมายพอสมควรนะคะ

เพราะว่าก่อนหน้านี้ หมอบุ๋มเคยได้เป็นรองมิสทีนไทยแลนด์มาแล้ว รุ่นน้องแม่มา อาเมเลีย จาค็อปนั่นแหละ

หมอบุ๋ม เป็นนางสาวไทยที่กบคิดว่า เธอสวย โดนใจกบพอสมควรเลย

ส่วนการที่เธอชื่อบุ๋มแล้วจะพฤติกรรมเหมือนผู้หญิงที่ชื่อบุ๋มอีกคนไหม ในระยะยาวต้องดูกัน

แต่ภาวนาให้หัวโขนที่จะนำหน้าชื่อเธอว่า พญ.ในอนาคต คงจะทำให้เธอมียางอาย ไม่เหมือนอีกบุ๋มนึงนะคะ


แต่ไหนๆพูดแล้ว ก็ขอวกไปดูรอง2 อีกคนที่ชื่อน้องเบียร์ ดูแล้วไอ้เราก็อดจะคิดไม่ได้ตามภาษาคนขี้สงสัยว่า หน้าตาเธอก็ไม่สวย ตัวก็ดำ เอ๊ะ หรือจะฉลาด แต่พอการตอบคำถามก็จบเห่ เพราะเธอสมองกลวงมาก เอาเถอะ เป็นเรื่องปกติของเวทีนี้ ที่จะต้องมีประหลาดๆโผล่มาทุกปี

ส่วนนางพยาบาลนายทหาร น้องปาล์มรอง1 ไม่ต้องพูดมาก เธอสวยและน่ารักโดนใจหนุ่มๆหลายคนแน่นอน แต่ใครอยากจะเธอต้องป่วยนะคะ อิอิอิ เพราะเธอเป็นนางพยาบาลไงคะ...

วันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

หรือฉากสุดท้ายจะจบที่สุวรรณภูมิ


เมื่อคืนนี้กบไปสมทบกับแฟนและหลุ่มผู้ชุมนุมี่ทำเนียบรัฐบาล เอ้ย ไม่ใช่สิ ต้องเรียกว่าทำเนียบประชาชนถึงจะถูก เมื่อคืนนี้ (28 พฤศจิกายน 2551) ที่ทำเนียบฯ คนยังคงหนาแน่นเหมือนเคย ตามภาษาคืนวันศุกร์ พ่อแม่พี่น้องที่ไปร่วมชุมนุมหลายๆคนก็ยังคงเป็นกลุ่มผู้หญิง คนแก่ เหมือนเดิม โดยที่น่าแปลกใจก็คือ กบคิดว่าคนมันยังคงหนาแน่นมากๆ แต่ทำไมทางรัฐบาลออกมาบอกว่ามีคนไม่น่าจะเกิน 300 คน แต่ก็ช่างมันเถอะ จำนวนคนเท่าไหร่ก็ไม่เท่าใจจริงไหมคะ

กบกลับมาถึงบ้านก่อนเที่ยงคืน เพราะบ้านของกบใกล้ทำเนียบรัฐบาลมากๆ จนตื่นมาตอนเช้า กบก็ได้ฟังในรายการของพี่ปองก็เลยได้ทราบว่า ตอนนี้ทางการเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภายใต้การบัญชาการของ พลตำรวจเอกปทีป ฯ รักษาการ ผบ.ตร ได้เข้ามาสนธิกำลังกับทหารป่าหวายแล้ว โดยมีการปิดล้อมผู้ชุมนุมเพื่อที่ชุมนุมอยู่ในสุวรรณภูมิ เพื่อตัดกำลังไม่ให้ส่งอาหารเข้าไปในกลุ่มผู้ชุมนุมได้ ถ้าใครอยากชมการสลายการชุมนุมสดๆก็ติดตามได้ทาง ASTV นะคะ

ลุงจำลองแจ้งให้ผู้ชุมนุมที่อยู่ในทำเนียบ ตามไปสมทบที่สุวรรณภูมิ ให้เราไปล้อมตำรวจที่กำลังล้อมพี่น้องประชาชนอีกทีหนึ่ง

เรื่องราวทั้งหมด จะเป็นละครฉากสุดท้ายที่ปิดฉากลงที่ท่าอากาศสุวรรณภูมิหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่พูดถึงสุวรรณภูมิ ที่เค้าว่ากันว่า มันคือมหากาพย์แห่งการทุจริต คอรัปชั่น ของประวัติศาสตร์ชาติไทย

สุวรรณภูมิ คือประตูสู่ประเทศไทย ที่เหมือนกล่องดวงใจของรัฐบาล และเหมือนกล่องดวงใจของคนไทยบางคน ที่ทำท่าเหมือนจะตายเวลาโดนควบคุม สุวรรณภูมิแลดูเหมือนทรงคุณค่ามากกว่าชีวิตพี่น้องพันธมิตรที่เสียไปเนื่องจากการโดนระเบิดยิงเข้ามาจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ

ณ เวลานี้ ทางตำรวจได้วางระดับสถานการณ์ในสุวรรณภูมิว่าเป็นการก่อการร้ายเรียบร้อยแล้ว และ ณ ขณะนี้ 8.00 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บล็อกไม่ให้คนเข้าดอนเมืองเพื่อเอาอาหารเข้าไปส่งแล้ว ขณะนี้ข้างในดอนเมืองและสุวรรณภูมิยังไม่ได้ทานข้าวปลากันเลย

สุวรรณภูมิ กล่องดวงใจของคนไทย ?

ตำนานของการคอรัปชั่นที่ยิ่งใหญ่

มันจะเป็นฉากสุดท้ายของการต่อสู้ที่ยาวนานมากว่า 180 วันหรือเปล่า

วันนี้รู้ค่ะ !

วันพุธที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

Political Greed! เกย์กับการเมือง

กบเปิดห้องสนทนาการเมืองให้กับเพื่อนๆแฟนนางงามในบอร์ด T-Pageant มาได้ประมาณ 2 สัปดาห์แล้วนะคะ แรกๆที่ผ่านมา เหมือนว่าห้องมันจะเงียบๆนะคะ แต่ตอนนี้ห้องเริ่มคึกคัก และที่สำคัญ เริ่มมีการแตกกระจายทางความคิดมากขึ้นค่ะ

http://www.t-pageant.com/webboard/viewforum.php?f=35

สมาชิกหลายๆคนที่เข้ามาพูดคุยในห้องการเมือง มีความคิดเห็นที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะฝ่ายเสื้อแดง หรือ ฝ่ายเสื้อเหลือง หรือแม้แต่เสื้อขาว(ส่วนใหญ่จะขาวจอมปลอมเสียมากกว่า)

โดยภาพรวม กบว่า เกย์ ไม่ค่อยชอบแสดงความเห็นทางการเมืองมาก ไม่รู้เพราะอะไร ส่วนหนึ่ง กบคิดว่าพวกเค้าอาจจะคิดว่า การต่อสู้เพื่อเสรีภาพในเพศตัวเองก็ลำบากพออยู่แล้ว จะไปวุ่นวายอะไรกับการเมืองให้มันปวดกบาลล่ะ จริงไหม

แต่ที่กบได้สัมผัสมา กบคิดว่าเกย์หลายๆคนก็มีความคิดลึกซึ้งเกี่ยวกับการเมืองพอสมควรเลยนะคะ

สำหรับเวทีของ Political Greed ! กบเองก็พยายามนะคะ ที่จะทำให้เป็นห้องของเกย์กับการเมือง ที่จะได้เข้ามาสามารถแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับบ้านเมืองได้ อย่างน้อยแม้จะเสียงเล็กๆ เราก็ได้แสดงบนเวทีของเราไป โดยไม่ต้องมาอ้างว่าเราเป็นเกย์การเมืองแต่อย่างใด จริงไหมคะ ?

วันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

The House Bunny


The House Bunny
กบตัดสินใจตีตั๋วเข้าไปชมหนังเรื่อง The House Bunny เมื่อวานนี้ ท่ามกลางบรรยากาศบ้านเมืองตึงเครียด เข้าไปดูช่วงบ่ายๆ เพราะรู้สึกอยากจะหย่อนใจเอามากๆ แล้วก็ไม่ผิดหวังกับตัวหนังเลยสักนิด
The House Bunny นี่ถ้าใครได้ชมภาพยนตร์ตัวอย่างมาก่อนหน้านี้ กบคิดว่าก้คงพอจะเดาเนื้อหาของหนังเรื่องนี้ได้ นางเอกของเรื่องคือ Shelly เด็กกำพร้าที่เหมือนลูกเป็ดขี้เหร่ ตอนเด็กไม่สวย แต่มาสวยตอนโต และได้เข้ามาอาศัยอยู่ในคฤหาสถ์ของ PLAYBOY โดยความใฝ่ฝันของเธอคือการที่จะได้เป็นสาวหน้ากลางของนิตยสาร PLAYBOY แต่ความฝันเธอก็ต้องพังทลายในเช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากงานเลี้ยงวันเกิดของเธอ เธอถูกไล่ออกจากบ้าน ด้วยสาเหตุที่ว่า เธอแก่เกินไปที่จะอยู่ในคฤหาสถ์ของสาวๆ PLAYBOY
SHELLY ตระเวณหางานอย่างคนไร้หลักแหล่ง เธอต้องผจญเหตุการณ์ต่างๆ จนติดคุก และก็หลุดเข้ามาในโรงเรียนแห่งหนึ่ง และได้จับพลัดจับผลูมาดูแลเด็กเนิ้ดกลุ่มนึงที่เฉิ่มๆ ใส่แว่นหนาเตอะ แต่พวกเธอจะต้องให้มีคนมาสนใจ ด้วยการสมัครเข้ามาอยู่ในบ้าน ZETA ของพวกเธอ ก่อนที่บ้านจะโดนยึด
แน่นอนเรื่องดำเนินรอยตามสูตรสำเร็จ SHELLY ศึกษาเด็กเนิ้ดเหล่านั้น พร้อมๆกับที่เด็กเนิ้ดเหล่านั้นก็ได้ศึกษา SHELLY และทุกอย่างกำลังจะไปได้สวย เด็กเนิ้ดกำลังจะแปลงร่างเป็นหงส์ และกำลังจะมีคนมาสนใจเข้าบ้าน ZETA มากมาย SHELLY ก็โดนเรียกกลับไปถ่ายหน้ากลางของ PLAYBOY โดยเรื่องร้ายๆที่เคยเกิดกับเธอนั้นคือการโดนกลั่นแกล้งนั่นเอง
กบขอสรุปเรื่องย่อเท่านี้ แต่เรื่องนี้ยังคงเดินรอยตามสูตรสำเร็จของฮอลลีวู้ด กับ หนังวัยรุ่น ที่เน้นเรื่อง การเป็นตัวของตัวเอง การเคารพตัวเอง การยอมรับในความแตกต่าง การเข้าใจในตัวผู้อื่น และการเคารพในตัวผู้อื่นด้วย เรื่องราวเหล่านี้ ฮอลลีวู้ดแลดที่นำมาสอดแทรกให้เราดูแล้วกบว่ามัน เนียน แต่สำหรับหนังไทย บางทีแลดูยัดเยียดจนเกินไป
กบเดินออกมาจากโรงหนัง พร้อมหัวสมองที่โล่งๆโปร่งๆและสบายใจขึ้นเล็กน้อย
ชีวิตสุขสันต์ของเรา คือการพักผ่อนหย่อนใจ บางทีกบคิดว่ากบเครียดกับตัวเองมากไปนิดนึง
อยากจะบอกเพื่อนๆที่เข้ามาอ่าน blog นี้ว่า
เราต้องยอมรับกันและกันแล้วกันนะ
อยากด่าก็ด่าไปเถอะ กบปล่อยเสรี ไม่ลบหรอกค่ะ
รักนะคะ...
กบ

วันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ตำนานชายตัดไม้


กบเข้าไปอ่านในเสรีไทยแล้วเจอนิทานที่เค้าแต่งมาให้อ่านเรื่องนึง เปรียบเทียบเอาไว้ได้ดีมากเลยค่ะ ก็เลยเอามาแชร์ให้เพื่อนๆได้อ่านกันดูค่ะ

หากเปรียบว่า พันธมิตรดังคนตัดไม้ที่ได้โค่นต้นไม้พิษไปแล้ว แต่รากของมันก็ยังอยู่ แล้วกำลังเริ่มเติบโตอีกครั้ง
แต่มาคราวนี้ มันแตกหน่ออย่างรวดเร็ว เหมือนธรรมชาติที่เราไปตัดแต่งกิ่งต้นไม้ มันก็จะงอกงามแตกพุ่มอย่างรวดเร็ว

คนตัดไม้หารู้ไม่ ว่าจุดสิ้นสุดของคนที่ได้โค่นต้นไม้พิษได้มาถึงแล้ว

ในระยะสุดท้าย

กำลังวังชาที่เหลืออยู่ก็ถดถอย ถูกก่นด่าและต่อว่า จากคนที่อาศัยอยู่รอบข้าง
เพราะขาดต้นไม้พิษมาให้ร่มเงา และผลไม้พิษไว้แทะเล็ม พอประทังชีวิต

โดนทั้งของแข็ง และเสียงก่นด่า คนตัดต้นไม้ ทรุดตัวลงที่ข้างตอเน่าๆ

เขามองไปรอบข้าง สายตาที่เกือบจะปิดยังคงมองเห็น ทุ่งของหน่อใหม่พิษแตกตัวไปสุดสายตา
เอื้อมมือไป เอื้อมมือไป ถอนแล้ว ถอนอีก... บาดมือตัวเอง.. จนเป็นแผล พิษลุกลามจนเกือบถึงหัวใจ

คนตัดไม้ลมหายใจโรยริน ต้นไม้พิษกลับงอกงาม

บางกิ่งก้านก็แทงทะลุร่างที่เริ่มไม่ไหวติง อีกต่อไปแล้ว...

ต้นไม้พิษดื่มกินแม้กระทั่งเลือดของคนตัดไม้เองด้วยซ้ำ

คนตัดต้นไม้พยายามเปิดตามองรอบข้างเป็นครั้งสุดท้าย

ในที่สุดลมหายใจของเขาก็หมดลง.. เขาขาดใจตาย กลางพุ่มไม้พิษที่ขยายตัวเติบใหญ่กว่าเดิมหลายเท่า

เรื่องราวของคนตัดไม้ ถูกฝังไว้ด้วยพิธีฉลองความงอกงามของต้นไม้พิษ... ไปทั่วทั้งหมู่บ้าน..

....

ผ่านไปอีกหลายเดือน หรือหลายปี เมื่อผลไม้พิษออกฤิทธิ์เข่นฆ่าผู้คนในหมู่บ้าน ทำลายพลังแผ่นดิน และแหล่งเพาะปลูกชีวิต..

คนหลายคนเริ่มตามหาคนตัดไม้อีกครั้ง.... แต่ไม่มีใครรู้เลย เขาได้ตายไปนานแล้ว...

ตำนานของคนตัดไม้ เริ่มกลับมาขับขานอีกครั้ง....

ทุกหยดเลือดสร้างแรงใจให้กับคนทั้งหมู่บ้าน เพื่อถอนรากถอนโคนปีศาจต้นไม้พิษที่สูงใหญ่

ทุกคนสวมวิญญาณของคนตัดไม้ ลงมือทำลายล้างทุกอย่าง...

อีกหลายชีวิต ที่ต้องฟาดฟันกับกิ่งไม้พิษ อีกหลายกองเลือด ที่สาดให้ต้นไม้พิษดื่มกิน

แต่นั่นก็จะเป็นจุดสิ้นสุดของระบอบทักษิณ

เครดิต : vorapoap เสรีไทย

....

วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของชายตัดไม้รึเปล่านะ เค้าจะโดนต้นไม้พิษทำร้ายจนตายหรือเปล่านะ กบไม่รู้สิ รู้แต่ว่า บางทีคนเราไม่เคยเรียนรู้หรือรับรู้ถึงประโยชน์ในสิ่งที่มีเลย สุดท้ายเรากลับไปเพรียกหามันในวันที่ไม่มีแล้ว.....


23/11/2008
วันระดมพลพันธมิตร

วันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

เวทีอัปยศ แหกตาแห่งชาติ!


เหตุเกิดที่ประเทศสารขัณฑ์


จะว่าไปนี่อีกไม่กี่วันจะได้เห็นกัลยาณี ช็อกการีคนใหม่แล้วใช่ไหมคะเนี่ย กับเวที เฟคแห่งชาติ เวทีแห่งความอัปยศที่ไม่รู้ว่ามันจะจัดทำส้นตีนอะไร !

เวทีแห่งเกียรติยศที่เกิดขึ้นมานานแสนนาน ณ ประเทศสารขัณฑ์ เป็นเวทีที่น่าจะภาคภูมิใจ แต่ก็เพราะความอัปปรีย์จัญไรของช่างภาพกับคนทำมงกุฏ จับมือกันทำให้น้ำกามคละคลุ้งเปลื้อนเวทีจะโสโครก

มงกุฏปีนี้ คนทำคนเก่าไม่ได้ทำ แต่ให้นายหน้าหาอีตัวเป็นคนทำ ทำเอง ส่งเด็กเอง ชงเอง ก็จะได้คนชนะหน้าเห่ยเหมือนปีก่อนรึเปล่านะ

แต่ที่แน่ๆ เวทีแห่งนี้ได้นางงามแต่ละคนประวัติงามหน้าทั้งนั้น

อาจารย์สาวเอาตะปูยัดรองเท้าตัวเองแล้วออกมาโวยวาย จนสุดท้ายได้มงกุฏไปครองจนได้ แต่ความชั่วก็ปิดไม่มิด หลังจากส่งมอบตำแหน่ง เธอเอาหมด หนังแผ่น แสดงบทช็อกการี ถ่ายแบบแหกหอย จนงามหน้า ไม่เหลือเค้าอาจารย์เลย

หลีดมหาลัยชื่อดัง ตัวเท่าลูกหมา ผิวดำเขลอะ แถมเตี้ย 162 แต่ที่บ้านสนิทกับกรรมการ ก็ตะกายดาวจนเอามงกุฏมาครองจนได้

รอดูก็ละกันนะคะ ประเทศสารชัณฑ์จะได้กัลยาณีมาเทิดแผ่นดินเป็นนางงามที่น่าภาคภูมิใจ หรือจะเป็นช็อกการีอีก !

วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

อาทิตย์ 23 พย ปิดกรุงเทพ!


ยุทธศาสตร์การต่อสู้ครั้งสุดท้ายเพื่อเผด็จศึกรัฐบาลทรราชที่รับใช้นักโทษชายหนีคุก กำลังจะมาถึง

หลัง จากยื้อกันมานานในระหว่างแกนนำ ที่จะชุมนุมด้วยหลักอหิงสา กับอีกฝ่ายที่ต้องการเปิดเกมส์รุก จบสิ้นความขัดแย้งด้วยระเบิดจากอาวุธสงคราม ที่เชื่อว่ายิงมาจากเจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่รักษาแผ่นดิน ภายใต้การบังคับบัญชาของนายพลที่ไม่มีหน่วยรบควบคุม และได้รับการปล่อยปละละเลยจากผู้บังคับบัญชาระดับสูง ให้กระทำการฆ่าประชาชนอย่างเลือดเย็น ผลของการปฏิบัติการ จะเข้าทางของใครก็ไม่ทราบ แต่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกาศเดินหน้าทำสงครามครั้งสุดท้าย

แพ้ก็กลับบ้าน มหาจำลองประกาศ (อันที่จริงลุงจำลองคงไม่ได้กลับบ้านะคะ ถ้าลุงแพ้เขาขังลุงแน่ๆคะ ไม่ก็ยิงทิ้ง)

ขณะ นี้มีการติดต่อสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ เพื่อให้เข้าร่วมการต่อสู้ ผลจะเป็นประการใด รัฐวิสาหกิจไหนที่จะเข้าร่วม รัฐวิสาหกิจไหนจะขอนอนพัก อีกวันสองวันคงได้รู้กัน

สัญญานที่ดังกว่านกหวีด ดังขึ้นทั่วประเทศแล้ว นี่เป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้าย ใครสมัครใจจะมาสู้ก็มา สมัครใจจะอยู่อีกฝ่ายก็ไป สมัครใจจะอยู่เฉยๆก็อยู่ นานาจิตตัง

หน่วยทหารได้รับคำสั่งแล้ว ให้ควบคุมบัญชีอาวุธโดยเข้มงวด อาวุธของทางราชการจะนำออกมาก่อเหตุสังหารประชาชนไม่ได้ แต่ก็รู้กันอยู่ว่า อาวุธที่นำมาก่อเหตุ เป็นอาวุธสงครามที่ไม่ใช่ของกองทัพ การควบคุมบัญชีกำลังพลดูจะป้องกันได้ดีกว่า โดยเฉพาะทหารระดับประทวนตัวแสบ ที่รับงานคุมบ่อนคุมซ่อง ประพฤติตนเป็นนักเลง เพียงเรียกเตรียมพร้อมในที่ตั้ง ห้ามออกนอกเขตรับผิดชอบ ก็ป้องกันได้มากโข ถ้าคืนนี้ หน่วยทหารยังปล่อยเศษทหารออกมารับใช้เศษแดงอีก หน่วยนั้นก็คือทรราช และผู้บังคับบัญชาสูงสุดของทหาร คงแก้ตัวเรื่อง 50 ล้านไม่ได้

วันอาทิตย์ปิดกรุงเทพ

วันจันทร์ปิดสภา และปิดดอนเมือง ที่ทำการรัฐบาลชั่วคราว

วันอังคารปิดประเทศ หยุดกิจกรรมทุกรูปแบบ

แพ้ชนะ อีกไม่กี่วันได้รู้

== พรรณชมพู==
เสรีไทย

วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

เรากำลังสู้เพื่ออะไร !


ข่าวสะเทือนใจที่พี่น้องพันะมิตรของกบเสียชีวิต 1 และบาดเจ็บอีกเกือบ 20 คน เป็นผลมาจากการจุดระเบิด M79 แล้วยิงใส่เข้ามากลางเวที กลางเต้นท์เลยค่ะ ส่งผลให้พี่น้องพันธมิตรเสียชีวิต 1 คนค่ะ ยิ่งได้เห็นภาพแล้วยิ่งสลดใจสะเทือนใจ

น้ำตาไหลค่ะ น้ำตาไหลด้วยความสะเทือนใจ และเคารพในความกล้าหาญของคนที่เสียชีวิต ในอดีต ชาวไทยเสียเลือดเนื้อเพื่อปกป้องบ้านเมืองจากอริราชศัตรูต่างชาติ แต่ใน พศ 2551 ชาวไทยต้องสูญเสียเลือดเนื้อให้กับการต่อสู้กับสงครามแก่งแย่งชิงอำนาจกันระหว่างทุนนิยมสามานย์กับผู้ปกป้องสถาบัน

เราปกป้องสถาบันจนตัวตาย จนเลือดนองแผ่นดิน แล้วทหารล่ะ ทหารหายไปไหน ทหาร ที่ได้ชื่อว่า มีงบลับ มีงบประมาณเพื่อป้องกันประเทศชาติ ภาษีที่พี่น้องประชาชนที่ไปตายในทำเนียบเค้าจ่ายมาเป็นเสื้อผ้า อาวุธ ตลอดจนเงินเดือนสูงๆให้นายทหารใหญ่ไปตีกอลฺฟ สุขสบาย วันนี้ทหารหายไปไหน

ทหารจะปล่อยให้เราต่อสู้กับความชั่วร้ายเพียงลำพังหรือ
ทหารจะให้พันธมิตรปกปักรักษาราชบัลลังก์เพียงลำพังหรือ
ทหารจะปล่อยให้กระบวนการจาบจ้วงยังคงอยู่กระนั้นหรือ

กบเห็นทหารออกมาขู่ๆ แล้วก็เงียบ

การกระืทำครั้งนี้เป็นฝีมือของทหารประจำการ ที่ออกมาขู่จะฆ่าจะยิงทุกวัน นายทหารอย่าง ผบทบ.ก็ยังปล่อยกระนั้นหรือ

จัดการหน่อยสิทหาร

อย่าให้ประชาชนเริ่มคลางแคลงว่า ต่อสู้เพื่ออะไร ?

วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

สื่อมวลชนกับนางงาม


ถึงฤดูกาลประกวดนางงามระกับชาติทีไร น้องๆในบอร์ดของกบจะต้องตื่นเต้นทุกที เริ่มตั้งแต่งานแถลงข่าว งานคัดตัว งานเปิดตัวผู้เข้ารอบสุดท้ายที่จะได้ขึ้นเวที งานเปิดตัวมงกุฏ งานรอบสื่อ งานวันตัดสิน งานเลี้ยงฉลองตำแหน่ง ทุกๆงานมีอันจะต้องประสานงานกับต้นสังกัดเพื่อขอเข้าไปทำข่าวทั้งนั้น

สื่อมวลชน บัตรสื่อมวลชนติดหน้าอก เพื่อป้องกันการเข้าไปทำมิดีมิร้ายในงานต่างๆเกี่ยวกับนางงาม เวบบอร์ดเวบไซต์โดนสื่อมวลชน นักข่าว จากหนังสือ มองอย่างเหยียดหยามราวกับเป็นคนอีกวรรณะหนึ่ง ซึ่งถ้าจะเอาเข้าจริงๆ เวลาสื่อเข้าไปทำงานในฐานะสื่อสายนางงามเนี่ย

สื่อหนังสือ มันเข้าไปเก็บภาพแล้วก็แดกฟรี แล้วก็เอาข่าวมาลงให้สามบรรทัด ภาพมาลงภาพเดียว สื่อเวบไซต์ เอาภาพมาลงแบบเยอะมากที่สุดเท่าที่จะเอามาลงได้ ไปทำข่าวมาเช้าบ่ายลง ทำข่าวบ่าย เย็นลง ประกวดคืนนั้น ลงให้ดูมันก่อนสาง ความทุ่มเทคนละเรื่อง แต่ส่วนนึงเข้าใจว่า เวบไซต์บางแห่งเค้าชอบช้อนนมช้อนจิ๋มนางงามก็ได้ ทำให้ต้นสังกัดไม่ปลื้ม แต่ในความไำม่ปลื้มก็ทำให้เวทีตัวเองดังได้ไม่ใช่หรือ

มาดูสื่อหนังสือ ที่ถือตัวเองว่า วรรณะสูงดีกว่าไหมคะ เค้ามีการหาประโยชน์จากนางงามกันยังไง เอาเป็นว่า มีพี่สื่อเวบไซต์สองคน ที่เค้าถ่ายภาพลงเวบไซต์ แต่ก็ยังไม่เอาชื่อเวบไซต์เข้าไปขอทำข่าว แต่ต้องพ่วงเอาหัวหนังสือเข้าไปทำข่าว แต่เบื้องหลังเอาเข้าจริงๆ ยิ่งกว่าสื่อ เพราะไม่ได้ถ่ายภาพอย่างเดียว แต่ยังแอบเอาเด็กตัวเองเข้าไปยัดไส้ ฝากฝังกับกองประกวด เพื่อที่จะดันๆๆให้เด็กตัวเองได้ตำแหน่ง พอเด็กตัวเองได้ตำแหน่งก็พาไปนัดๆๆๆกินข้าวกับผู้ใหญ่

กบขอเรียกคนเหล่านี้ว่าเหลือบในวงการนะคะ ลำพังเด็กตัวเองสวยระดับนึง นัดทานข้าวกับผู้ใกญ่อาจจะยาก แต่ถ้าพ่วงสักตำแหน่ง รองอันดับ1 จากการประกวดโน่นนี่นั่น ก็อาจจะทำให้ผู้ใหญ่เค้าหันหน้ามาสนใจ

ไม่ต้องแปลกใจเลยว่า เทศกาลประกวดนางงามระดับชาติเวทีใหญ่ทีไร สภาบันสอนบุคลิกภาพแห่งหนึ่ง ใจกลางเมือง จะคราคร่ำไปด้วยพี่เลี้ยงนางงามเดินสาย ช่างภาพที่แอบส่งนางงามเข้าไปกวด ที่หมั่นขึ้นไปเรียนบุคลิกภาพจนหัวกะไดไม่แห้ง อ้าวไม่ได้ไปเรียนนี่หว่า แต่ไหงเอารูปนางงามตัวเองไปฝากฝัง วงการนางงามไทยมันไปได้ไม่ไกลหรอก เพราะเหลือบพวกนี้แหละ......

วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

สร้างความต่างใน webboard !


กบใช้ชีวิตวนเวียนในเวบบอร์ดต่างๆมาหลายปีเหมือนกันแล้วนะคะ ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนรักการป่วนบอร์ดชาวบ้านมากๆค่ะ แต่วีรกรรมเก่าๆที่เคยทำมาไว้จะไม่พูดละกันค่ะ เพราะพูดไปเค้าจะนึกว่าเราแก่แล้ว เพราะคนที่ชอบพูดเรื่องเก่าๆเค้ามีแต่คนแก่ๆถึงจะชอบพูดกันจริงไหมคะ

แต่คำพูดนึง เวลาที่เราไปป่วนบอร์ดเค้าชอบพูดกันคือ ทำไมมึงไม่ไปเปิดบอร์ดของมึงวะ นี่แหละค่ะ ก้องหูเลย จนวันนี้มีบอร์ดของตัวเอง ก็เลยเจอพฤติกรรมป่วนบอร์ดในแบบต่างๆ แต่ในสายตากบแล้ว กบค่อนข้างจะปล่อยๆกับพวกป่วนบอร์ดนะคะ เล็กๆน้อยๆ แบบที่กบเคยทำ เราไม่ว่ากัน

แต่ป่วนบอร์ดแบบไหนล่ะ มันเกิดจากอะไรล่ะ และมันจะเอายังไงต่อไปดี

คนป่วนบอร์ดที่ป่วนเข้ามาแบบขาประจำเนี่ย กบจะคิดแบบเข้าข้างตัวเอง มองโลกในแง่ดีสุดๆคือ

เค้ารักบอร์ดของกบ ค่ะ

อ้าว จริงไหมล่ะคะ !

ถ้าไม่รักกัน มันจะเอาเรี่ยวเอาแรงที่ไหนมาป่วนได้แบบทุกวัน

แต่คนบางคนป่วนเพราะมีความสุขจริงๆนะคะ แบบประเภทว่า ชอบคิดต่าง ชอบมองต่างมุม แต่บางทีตะพึดตะพือค่ะ เช่น คนส่วนมากชอบ ข้าต้องไม่ชอบ คนส่วนมากไม่ชอบ ข้าต้องชอบ เอาเป็นว่า คนพูดนี้เหมือนจะมีจุดยืนนะคะ แต่เอาเข้าจริงๆ อคติ แต่เป็นอคติกับคนหมู่มาก สมมุติว่าคนในบอร์ดบอกว่าขี้มันเหม็น อีคนพวกนี้มันยอมออกมาบอกว่า ขี้หอม หรือมันยอมกินขี้โชว์มันยังทำเลย ขอสร้างความต่างอย่างเดียวพอ

ระยะหลังๆ การแสดงออกของคนเหล่านี้ โดนคนหมู่มากรุมแอนตี้เยอะมาก คนพวกนี้ไม่ได้ต้องการอะไรมากเลย เค้าต้องการแค่ให้มีคนเห็นด้วยกับเค้าสักสามสี่คนก็พอ เค้าก็จะมีความสุขในแง่คิดต่างมุม กบไม่เคยเพลิกเฉยกับความคิดของคนพวกนี้นะคะ อ่านค่ะ แต่อ่านแล้วเอามาสังเคราะห์อีกรอบนึง เข้าท่าก้คิดตาม ไม่เข้าท่าก็เฉยๆ อ่านขำขำ

เราต้องปรับใจยอมรับและให้โอกาสคนพวกนี้พอสมควรนะคะ เพราะถ้ามองในแง่ดี ก็ดีกว่าให้เค้าไปทำแบบนี้ที่อื่น เพราะไม่รู้ว่าที่อื่นเค้าจะยอมแบบเราไหม แต่ที่รับไม่ได้คือ คนพวกนี้ เริ่มใช้วิธีการใต้ดิน แอบด่าใน msn และบอกว่า ใจแคบ บอร์ดใจแคบ ทั้งๆที่มันเลือกทางเดินที่เล็กและแคบเอง ไปคิดต่างจากคนหมู่มาก และพยายามจะหว่านล้อมให้คนหมู่มากคิดเหมือนตัวเอง โดยที่วาทศิลป์ก็ไม่มี เฮ้อออ.....

วันหลังจะเล่าพฤติกรรมขำขำของคนพวกนี้ให้ฟังอีก

วันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

HIV รักษาได้แล้ว !


กบได้อ่านข่าวนี้ในกระทู้ของคุณ สมาชิกในบอร์ด T-Pageant ที่เอาข่าวนี้มาบอก ซึ่งเท่าที่อ่านดู กบคิดว่ามันก็เหมือนแสงสว่างสำหรับคนที่ติดเืชื้อ HIV นะคะ สำหรับหลักการของการรักษาผู้ติดเชื้อ HIV ก็มีดังนี้

Doctors say marrow transplant may have cured AIDS By PATRICK McGROARTY, Associated Press Writer
แพทย์กล่าวว่า การปลูกถ่ายไขกระดูกอาจจะรักษาเอดส์หายขาดได้
ข่าวโดยแพทริก แม็คกรอธที่ นักข่าวสำนักข่าวเอพี

97% of users found this article helpful.
97% ของผู้ใช้พบว่า บทความนี้มีประโยชน์

German hematologists Eckhard Thiel, left, and Gero Huetter of Berlin's Charite Medical University attend a news conference about a successful treatment of a HIV infected patient in Berlin, on Wednesday, Nov. 12, 2008. (AP Photo/Michael Sohn)
นักโลหิตวิทยาชาวเยอรมันสองคน นายแอคฮาร์ดฯ (คนซ้าย) และนายเจอโรฯ ของมหาวิทยาลัยแพทย์เบอร์ลินชาริต์ (อาจจะแปลว่ามหาวิทยาลัยไม่ค้ากำไร) แถลงข่าวเกี่ยวกับการรักษาคนไข้เอดส์ในเบอร์ลิน ที่ประสบความสำเร็จในการรักษา โดยแถลงข่าววันพุธที่ 12 พ.ย.2008 (ภาพเอพี ไมเคล ซอห์น)
BERLIN - An American man who suffered from AIDS appears to have been cured of the disease 20 months after receiving a targeted bone marrow transplant normally used to fight leukemia, his doctors said.
เบอร์ลิน ชายชาวอเมริกันซึ่งป่วยด้วยโรคเอดส์ ดูเหมือนว่าจะหายขาดจากโรคนี้ได้ 20 เดือนหลังได้รับการปลูกถ่ายไขกระดูกด้วยวิธีที่เรียกว่า targeted bone marrow transplant ซึ่งปรกติใช้รักษามะเร็งลูคีเมีย แพทย์ของคนไข้กล่าว

While researchers — and the doctors themselves — caution that the case might be no more than a fluke, others say it may inspire a greater interest in gene therapy to fight the disease that claims 2 million lives each year. The virus has infected 33 million people worldwide.
แม้นักวิจัย และแพทย์ทั้งคู่กล่าวเตือนว่ากรณีนี้อาจเป็นกรณีฟลุ๊คหายก็ได้ แต่คนอื่นๆกล่าวว่ากรณีดังกล่าวอาจจะเป็นกำลังใจให้มีความสนใจศึกษาการรักษา ด้วยสารพันธุกรรม(ยีน) เพื่อรักษาโรคที่คร่าชีวิตผู้คน 2 ล้านชีวิตต่อปี ไวรัสเอดส์ติดเชื้ออยู่ในตัวผู้ป่วยว่า 33 ล้านคนทั่วโลก

Dr. Gero Huetter said Wedneday his 42-year-old patient, an American living in Berlin who was not identified, had been infected with the AIDS virus for more than a decade. But 20 months after undergoing a transplant of genetically selected bone marrow, he no longer shows signs of carrying the virus.
หมอเจอโรฯ กล่าวในวันพุธนี้ ว่า คนไข้อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นชาวอเมริกันที่อาศัยในเบอร์ลินที่ไม่เปิดเผยชื่อ ได้รับเชื้อไวรัสเอดส์ เป็นเวลากว่าทศวรรต แต่หลังจากปลูกถ่ายไขกระดูกที่ได้ผ่านการคัดเลือกทางพันธุกรรมได้ 20 เดือน เขาก็ไม่มีการแสดงอาการว่ามีไวรัสอยู่ในตัวเขา

"We waited every day for a bad reading," Huetter said.
It has not come. Researchers at Berlin's Charite hospital and medical school say tests on his bone marrow, blood and other organ tissues have all been clean.
เรารอทุกวันสำหรับข่าวร้าย หมอเจอโรกล่าว แต่มันก็ไม่มีข่าวร้าย นักวิจัยที่โรงพยาบาลเบอร์ลิน ชาริต์และโรงเรียนแพทย์กล่าวว่าการตรวจสอบทั้งไขกระดูก เลือดและเนื้อเยื่อของอวัยวะอื่นๆ ต่างไม่พบเชื้อ

However, Dr. Andrew Badley, director of the HIV and immunology research lab at the Mayo Clinic in Rochester, Minn., said those tests have probably not been extensive enough.
อย่างไรก็ตาม แพทย์แอนดรูว์ แบดเล่ย์ ผู้อำนวยการของห้องวิจัยเอดส์และวิชาอิมมูโนที่เมโยคลินิกในโรเชสเตอร์ มิเนโซต้า กล่าวว่า การตรวจสอบทางห้องปฏิบัติการดังกล่าวอาจจะไม่ละเอียดหรือครบถ้วนพอ

"A lot more scrutiny from a lot of different biological samples would be required to say it's not present," Badley said.
ต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกมาก จากตัวอย่างอีกมากๆตัวอย่างเพื่อจะยืนยันว่า เชื้อไวรัสนั้นไม่มีอยู่จริงๆ หมอแบดเล่ย์กล่าว

This isn't the first time marrow transplants have been attempted for treating AIDS or HIV infection. In 1999, an article in the journal Medical Hypotheses reviewed the results of 32 attempts reported between 1982 and 1996. In two cases, HIV was apparently eradicated, the review reported.
Huetter's patient was under treatment at Charite for both AIDS and leukemia, which developed unrelated to HIV.
นี่ ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้มีความพยายามทำการปลูกถ่ายไขกระดูกเพื่อรักษาเอดส์ หรือการติดเชื้อเอชไอวี ในปี 1999 มีบทความในวารสารแพทย์ที่ให้สมมุติฐานโดยทบทวนความพยายามเรื่องแบบนี้ 32 ครั้งที่รายงานไว้ในระหว่างปี 1982-1996 มีสองรายที่ไว้รัสเอชไอวีดูเหมือนว่าจะถูกกำจัดหมด การทบทวนรายงานครั้งนั้นราย งานไว้ด้งกล่าว
คนไข้ของหมอเจโรได้รับการรักษาที่ชาริตสำหรับโรคเอชไอวีและลูคีเมียซึ่งเกิดขึ้นโดยไม่เกี่ยวกับเอชไอวี

As Huetter — who is a hematologist, not an HIV specialist — prepared to treat the patient's leukemia with a bone marrow transplant, he recalled that some people carry a genetic mutation that seems to make them resistant to HIV infection. If the mutation, called Delta 32, is inherited from both parents, it prevents HIV from attaching itself to cells by blocking CCR5, a receptor that acts as a kind of gateway.ในขณะที่หมอเจอโรซึ่งเป็นนักโลหิตวิทยา ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญรักษาเอชไอวี เตรียมที่จะรักษาโรคลูคีเมียของคนไข้ด้วยการปลูกถ่ายไขกระดูก เขานึกได้ว่ามีคนบางคนที่มีการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมแบบเกิดขึ้นเองซึ่งทำให้ คนพวกนี้ทนต่อการติดเชื้อเอชไอวี ถ้าการแปลงเปลี่ยนพันธุ์แบบเกิดขึ้นเองที่เรียกว่า เดลต้า 32 ถูกถ่ายทอดทางพันธุกรรมจากพ่อแม่เขา การเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมที่เกิดขึ้นนั้น จะป้องกันเชื้อเอชไอวีไม่ให้ติดเข้ากับเซลของคนนั้นโดยการปิดกั้น ซีซีอาร์ 5 ซึ่งเป็นตัวรับไว้รัสที่ทำหน้าที่เป็นเป็นเหมือนประตูทางเข้า

"I read it in 1996, coincidentally," Huetter told reporters at the medical school. "I remembered it and thought it might work."
“ผมอ่านบทความนี้ในปี 1966 โดยบังเอิญ” หมอเจอโรพูดกับนักข่าวที่โรงเรียนแพทย์ “ผมจำได้และคิดว่ามันอาจได้ผล”

Roughly one in 1,000 Europeans and Americans have inherited the mutation from both parents, and Huetter set out to find one such person among donors that matched the patient's marrow type. Out of a pool of 80 suitable donors, the 61st person tested carried the proper mutation.
กะคร่าวๆ คนยุโรปและสหรัฐ 1 ใน 1000 จะได้รับการถ่ายทอดการแปลงเปลี่ยนพันธุกรรมนี้จากทั้งพ่อและแม่ และหมอเจอโรเริ่มหาคนเหล่านี้ในกลุ่มผู้ที่บริจา***วะซึ่งเข้าได้กับไข กระดูกคนไข้ ในคนบริจา***วะ 80 คนที่เข้าได้กับไขกระดูกคนไข้ คนที่ 61 ตรวจพบว่ามีพันธุกรรมแบบแปลงเปลี่ยนพันธุ์ที่ต้องการ

Before the transplant, the patient endured powerful drugs and radiation to kill off his own infected bone marrow cells and disable his immune system — a treatment fatal to between 20 and 30 percent of recipients.
ก่อนการ ปลูกถ่ายไขกระดูก คนไข้ต้องทนต่อยาที่รุนแรงและการฉายแสงที่ฆ่าเซลไขกระดูกที่ติดเชื้อเอชไอวี ของเขาและทำให้ระบบคุ้มกันภัยของเขาไม่ทำงาน การรักษาแบบนี้ มีอัตราตายได้ระหว่าง 20-30 % ของผู้ที่รับการปลูกถ่ายไขกระดูก

He was also taken off the potent drugs used to treat his AIDS. Huetter's team feared that the drugs might interfere with the new marrow cells' survival. They risked lowering his defenses in the hopes that the new, mutated cells would reject the virus on their own.
คนไข้ยังต้องเอายา อย่างแรงที่ใช้รักษาเอดส์ออกด้วย ทีมหมอเจอโรกลัวว่ายารักษาเอดส์อาจจะรบกวนต่อการโตของเซลไขกระดูกใหม่ที่ ปลูกถ่ายเข้าไป ทีมรักษาต้องเสี่ยงโดยการลดความสามารถในการป้องกันตัวเองของคนไข้ต่อเชื้อ โรคเพื่อหวังว่า เซลใหม่ที่แปลงเปลี่ยนพันธุกรรมที่ปลูกถ่ายเข้าไปใหม่นั้นจะกำจัดไวรัสด้วย ตัวมันเอง

Anthony Fauci, director of the National Institute of Allergy and Infections Diseases in the U.S., said the procedure was too costly and too dangerous to employ as a firstline cure. But he said it could inspire researchers to pursue gene therapy as a means to block or suppress HIV.
แอนโทนี่ เฟาซี่ ผู้อำนวยการของสถาบันโรคติดเชื้อและภูมิแพ้แห่งชาติของสหรัฐ กล่าวว่า กรรมวิธีนี้แพงเกินเหตุและอันตรายเกินกว่าที่จะนำไปใช้เป็นวิธีแรกในการ เสี่ยงเพื่อรักษาเอดส์ให้หายขาด แต่เขากล่าวว่าผลการรักษาจะทำให้นักวิจัยสนใจที่จะใช้การรักษาด้วยพันธุกรรม เป็นวิธีที่จะป้องกันหรือควบคุมโรคเอชไอวี

"It helps prove the concept that if somehow you can block the expression of CCR5, maybe by gene therapy, you might be able to inhibit the ability of the virus to replicate," Fauci said.
“มันเป็นการพิสูจน์ความเชื่อที่ว่า ถ้าคุณสามารถปิดกั้นการแสดงออกของ ซีซีอาร์ 5 ไม่ให้มีเกิดขึ้นได้ ,อาจจะโดยวิธีรักษาด้วยวิธีทางพันธุกรรม, คุณก็อาจจะปิดกั้นความสามารถของไวรัสที่จะแบ่งตัวเพิ่มจำนวน” เฟาซี่ กล่าว

David Roth, a professor of epidemiology and international public health at the London School of Hygiene and Tropical Medicine, said gene therapy as cheap and effective as current drug treatments is in very early stages of developm ent.
"That's a long way down the line because there may be other negative things that go with that mutation that we don't know about."
เดวิดรอท ศาสตราจารย์ ทางด้านระบาดวิทยายและการสาธารณสุขระหว่างชาติของมหาวิทยาลัยอายุรศาสตร์เขต ร้อนและการสาธารณสุขแห่งกรุงลอนดอน กล่าวว่า การรักษาด้วยพันธุกรรมที่ได้ผลดีเท่าและราคาถูกเท่ากันกับการรักษาด้วยยาที่ ใช้กันในขณะนี้ ยังถือว่าเป็นเพียงขั้นต้นมากๆของการพัฒนาวิธีรักษานี้ “ มันยังอีกนานระหว่างการรักษาด้วยวิธีนี้ เพราะอาจจะมีสิ่งไม่ดีที่อาจติดตามมากับวิธีรักษาด้วยพันธุกรรมที่แปล เปลี่ยนนี้ ซึ่งเรายังไม่รู้”

Even for the patient in Berlin, the lack of a clear understanding of exactly why his AIDS has disappeared means his future is far from certain.
"The virus is wily," Huetter said. "There could always be a resurgence."
(This version CORRECTS spelling of doctor's name to Huetter throughout.)
แม้ กระทั่งกรณีของคนไข้ในเบอร์ลินนี้ การไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้แน่ชัดว่า ทำไมไวรัสเอดส์ของเขาจึงหายไปหมายความว่า อนาคตก็ยังเป็นเรื่องไม่แน่นอน “ ตัวไวรัสเอดส์นั้นเจ้าเล่ห์” หมอเจอโรกล่าว “ มันอาจเป็นได้ว่ามันจะกลับเป็นอีก”

สมัยหนึ่ง การปลูกฝีให้กับตัวเองของหมอเอ็ดเวิร์ด เจนเน่อร์ โดยการเอาเชื้อไวร้สไปป้ายให้กับตัวเอง เขาก็ไม่รู้อานาคต และไม่รู้ว่าทำไมจึงป้องกันโรคได้ แต่เขาก็ทำ
คนแรกที่ใข้เพนนิซิลินก็ไม่รู้อนาคตและไม่รู้ด้วยว่าทำไมเพนนิซิลินจึงรักษาโรคได้ แต่เขาก็ทำ
คนที่ไปดวงจันทร์คนแรก ก็ไม่รู้ว่าจะได้กลับหรือไม่ หรือกลับยังไง แต่เขาก็ไป
คนพวกนี้เขาจึงนับถือว่าเป็นผู้กล้าหาญ



-----------------------


ท้ายที่สุด มันจะรักษาให้หายขาดได้หรือไม่ แม้จะต้องใช้เงินใช้ทองมากมายขนาดไหนยังไง ก็เป็นเรื่องน่ายินดี แต่ก้ใช่ว่านับแต่นี้เราจะต้องใช้ชีวิตอย่างประมาทนะคะ การเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงน่าจะดีที่สุดนะคะ เพราะต่อให้รักษาได้จริง ก็คงไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ

วันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

สงสารในหลวง.......







กบกราบขออนุญาตใช้คำศัพท์แบบสามัญพูดแบบซื่อๆนี่แหละว่า สงสารในหลวง เำพราะบรรยากาศที่ได้รับชมงานถวายพระเพลิงพระศพของสมเด็จพระพี่นางเมื่อคืนนี้เป็นอะไรที่ดูแล้วมันจุกอยู่ที่คอหอย ปล่อยโฮออกมาได้อย่างลืมตัว

คนไทยเราผูกพันธ์กับสถาบันกษัตริย์เหลือเกิน เรายอมเรียกพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ว่า เจ้านาย อย่างเต็มใจ เมื่อวานนี้เป็นงานศพของ เจ้่านาย ของประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ

บรรยากาศในกทม เท่าที่กบได้ออกไปสัมผัสมา กบพบว่า ประชาชนชาวไทยที่ออกมาเดินข้างนอกใส่ชุดดำไว้ทุกข์กันเกือบหมดประมาณ 99% หาน้อยมากที่จะเจอคนใส่ชุดสีฉูดฉาด เว้นเสียแต่ชาวต่างชาติหรือเด็กที่เด็กมากๆ เราก็ไม่ว่ากัน ในส่วนนี้นับว่าเรายังสามารถชื่นชมได้ว่าสถาบันกษัตริย์ของเราในประเทศไทยยังเข้มแข็ง

งานถวายพระเพลิง งานออกพระเมรุเมื่อวานนี้ หากใครได้ชมตั้งแต่ต้นจนจบจะพบว่า งานพระราชพิธีแบบนี้ คือความภาคภูมิใจในความเป็นชาติภาคภูมิใจในประเพณีวัฒนธรรมของเราอย่างมาก งานพระศพแบบโบราณอย่างนี้ รับรองได้ว่าไม่มีที่ไหนในโลกอีกแล้ว เป็นการส่งเจ้านายสู้สวรรคาลัยอย่างแท้จริง ทุกอย่างมีนัยสำคัญหมด ท้่ายที่สุดนี้ กบเลยขอเอาภาพสวยๆจากริ้วขบวนพระศพมาให้ดูกันค่ะ

วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

THAILAND สู้สู้

เมื่อวานนี้ช่วงเวลาประมาณหกโมงเย็น กบมีโอกาสได้ส่งน้องมิ้ม อัมราภัสร์ ไปเข้าร่วมประกวดนางงามโลกที่ประเทศแอฟริกาใต้ !


แหะๆๆ

กบได้ส่งเธอทางโทรศัพท์ค่ืะ

น้องในบอร์ด T-Pageant คนนึงเป็นธุระต่อสายให้น้องมิ้มโทรมาคุยกับกบ และกบเองก็อยากจะคุยกับน้องมิ้มด้วย ในฐานะที่ว่ากบรักและเอ็นดูน้องมิ้มเหมือนน้องสาวจริงๆ อิอิอิ


น้องมิ้มเสียงใสชัดแจ๋ว บอกว่า ได้คุยกับพี่กบเสียที กบเองก็ดีใจมากๆๆที่ได้คุยกับน้องมิ้ม

โดยรวมๆ น้ำเสียงน้องมิ้มค่อนข้างจะมั่นใจเอามากๆ กบเองก็บอกน้องมิ้มไปว่า เดินทางคนเดียวไม่ต้องกลัวอะไรนะ เพราะยังไงพี่ๆน้องๆในบอร์ด T-pageant พร้อมเอากำลังใจให้เต็มเปี่ยมแน่นอน ไม่ต้องไปกลัวนางงามประเทศอื่นนะ เพราะน้องมิ้มของเราสวยสู้เค้าได้แน่นอน

น้องมิ้มจะเข้าพักที่โรงแรม Sandton Sun ที่แอฟริกาใต้ตลอดการเก็บตัว 1 เดือน นึกไปนึกมาก็น่าอิจฉานะคะ เพราะได้มีประสบการณ์ที่ประเทศที่สวยขนาดนี้ตั้ง 1 เดือน

แต่ 1 เดือน ของน้องมิ้ม ในฐานะเด็กสาวที่เข้าวงการมาเป็นดาราไปแล้ว ก็ต้องถือว่าเธอเสียสละพอสมควร เพราะทั้งงานละคร ทั้งงานโชว์ตัว เธอต้องปัดไปหมดเลย

ยังไงก็ตาม Miss World ปีนี้ น้องมิ้มพร้อมมากๆ กองเชียณ์ไทยเราก็พร้อมมาก ทีมงานที่เตรียมของให้น้องมิ้มก็พร้อมมากๆเหมือนกัน

THAILAND สู้ !

วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ชีวิตสุขสันต์ของกบ

ช่วงนี้เพื่อนๆที่ตามอ่านบล็อกของกบอาจจะผิดหวังเล็กน้อยนะคะที่ไม่ได้อ่านข่าวสารสาระที่คอยตามจิกตามด่านางงามเหมือนเก่าๆ ใจจริงๆกบขอยืนยันว่ายังมีเรื่องราวข้อมูลมากมายที่อยากจะเขียนถึงมากมาย แต่เนื่องด้วยห้วงเวลา 3-4 วันจากนี้ไป กบจะละเว้นการด่าทอ หรือการจิกกัดนางงาม เพื่อเป็นการทำความดีไว้อาลัยสมเด็จพระพี่นางของปวงชนชาวไทยนี่เอง

ช่วงนี้เห็นภาพน้องหมาในอิริยาบทต่างๆแล้วกบแอบฮานะคะ หมามันเป็นสัตว์ที่ตลกดีเหมือนกันนะคะ ที่บ้านกบมีหมาเยอะค่ะ แต่ตัวที่ตลกจะมีปั๊กตัวนึง มันเป็นปั๊กในฝูงปอมค่ะ

ภาพประกอบที่นำมาขึ้นในบล็อกนี่ไม่ใช่หมากบนะคะ แต่กบ search เจอแล้วเห็นมันน่ารักดี

งั้นมาเข้าเรื่องเจ้าปั๊กของกบต่อดีกว่า หมาปั๊กโดยทั่วไปมันต่างจากหมาปอมแน่นอน คนละเรื่องกันเลย

แต่ทำไงล่ะ พอมันมาอยู่ด้วยกัน เจ้าปั๊กมันชอบคิดว่ามันเป็นปอม

เวลากบเดินกลับบ้าน ฝูงหมาจะวิ่งแข่งกันมาหา โดยหมาเป็นฝูงมีเจ้าปั๊กนี่แหละวิ่งรวมฝูงมาด้วย แต่ที่ตลกคือ ปั๊กมันจะอ้วนๆตันๆ ขาเล็ก ศูนย์ไม่ดี นั่นเลยค่ะใช่เลย เจ้าปั๊กเป็นหมาทีชอบวิ่งแล้วหกล้ม สมกับคำที่เค้าบอกว่าสีี่ขายังรู้พลาดจริงๆ

เวลากบนั่งบนเก้าอี้ หมาบางตัวมันอยากประจบมันก็จะกระโดดขึ้นมานั่งตัก ไอ้เ้จาปั๊กก็อยากทำบ้าง ที่ฮามากๆคือ มันกระโดดไม่ค่อยสำเร็จหรอกค่ะ กระโดดขึ้นมาแล้วก็ตกเก้าอี้ทุกที เจ็บตัวไปตามระเบียบ

วีรกรรมน้องหมา เวลานึกถึง หรือเราไปมองหน้ามัน แล้วเราอารมณ์ดีนะคะ

มีคนถามว่าชีวิตสุขสันต์ของเราคืออะไร การที่เราได้ทำอะไร

กบเองก็ไม่ค่อยรู้ตัวเท่าไหร่ รู้แต่ว่า กบมีความสุขเวลาได้เข้ามาในบอร์ด T-pageant ของกบ เวลาเจอคนป่วนๆก็เครียดๆบ้าง แต่บางทีก็มองโลกในแง่ดีนะ ถ้าเค้าไม่รักเราเค้าจะมาป่วนทำไม นี่คิดในแง่ดีสุดๆแล้วนะคะเนี่ย

พรุ่งนี้แล้วนะคะ จะเป็นวันที่เราจะมาร่วมกันส่งเสด็จสมเด็จพระพี่นางสู่สวรรรคาลัยแล้ว กบก็จะขอให้พระองค์ท่านเสด็จสู่สวรรคาลัย และท่านจะอยู่ในใจชาวไทยทุกคนค่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ภาพสะท้อนอันน่ารังเกียจ


สองสามวันมานี้ กบมีโอกาสได้ทบทวนพฤติกรรมเก่าๆของตัวเองด้วยการไปหากระทุ้เก่าๆมาดูแล้วก็พบว่า เรานี่เป็นคนปากกบ้าจังเลยนะ แบบว่าท้าชนดะมันทุกรูปแบบ ใครจะมาด่าเรา สมมุติด่าเรา 10 เราต้องตอกกลับ 20 ด่าเรา 100 ต้องตอกกลับอย่างน้อย 200 เอาให้แรง เอาให้สะใจ แต่สุดท้ายกบได้อะไรวะ นอกจากอะดรีนาลันพุ่งพล่าน

สามสี่วันก่อน หลังจากประกวด Miss Earth จบ มีคนส่ง link คำเย้ยหยันของกะเทยขาประจำคนนึงมาให้กบอ่าน จริงๆกบเคยเข้าไปอ่านมาก่อนแล้วล่ะ ทุกอย่างตามคาด เสียดสี เย้ยหยัน อ่านแล้วสมเพชในพฤติกรรามที่น่าขยะแขยง แต่กบมานั่งพิจารณาแล้ว มันก็ไม่ได้ดีไปกว่าพฤติกรรมของเราเลย

กบมองดูพฤติกรรมของกะเทยแก่คนนั้นที่ด่ากบ แล้วกบก็เหมือนเห็นภาพสะท้อนตัวตนในด้านน่ารังเกียจของตัวเองว่า เออ จริงนะ เราเองก็ไม่ได้มีสภาพต่างไปจากยายนั่นเลย ถ้าเราตอบโต้ ยานนั่นก็จะยังไม่หยุด กบเลยคิดว่ากบอยากจะหยุดตอบโต้ เพราะกบเองก็หาประโยชน์อะไรไม่ได้เลยจากการที่กบจะไปตอบโต้หรือเอาตัวเองไปแลก

ถามว่า การที่จะเอาตัวเองไปแลก มันก็ไม่ได้ต่างอะไรกับการยกบอร์ดของเราทั้งบอร์ดไปแลก เพราะเวลาคนพวกนั้นด่า แน่นอน กบโดนก่อน จากนั้นจะตามมาด้วยบอร์ด ยังไงกบก็สลัดตัวเองออกจากภาพพจน์ของบอร์ดไม่ได้แน่นอน กบก็เลยคิดว่า เออ เราหยุดละกัน มันจะได้จบ

เชื่อไหม เดือนสองเดือนมานี่ สาเหตุที่กบเคยอยากจะหยุดด่า แต่กบก็ยังหยุดไม่ได้ เพราะทุกวัน เวลากบมาเช็คเมล์ กบเจอแต่คนส่งอีเมล์มาด่า แบบว่าด่าสาดเสียเทเสีย เหมือนกะเทยเก็บกดที่ไหนก็ไม่รู้ มาด่าได้ด่าดี ด่าได้ทุกวัน ไม่เคยซ้ำ ไม่อยากจะปักใจเชื่อว่าคนเดียว เพราะมันหลายอีเมล์มากๆ จริงๆถ้าจะด่าก็เมล์เดียวพอ แต่นี่หลายเมล์แสดงว่าหลายคน

นั่งคิดไำปคิดมา มีคนบอกว่า มีคนด่าเรามากๆ เราจะมีความสุขเหรอ ?

นั่นสิ เราจะไปมีความสุขได้ยังไง แต่ไอ้ครั้นจะออกมาแจงให้เลิก คงยาก

ทุกวันนี้ น้องๆในบอร์ดหลายคนที่เคยเกลียดกบ หลายคนได้คุยก็เข้าใจมากขึ้น ดีใจนะ กบเชื่อว่าเวลาจะเยียวยาความคิดคนได้ กบไม่หวังให้คนมาชื่นชมกบเป็นนางฟ้านะ แต่แค่หวังให้คนที่ยังไม่รู้จักกบได้ลองเข้ามาสัมผัสจริงๆดีไหม เพราะเอาเข้าจริงๆ กบไม่เคยพูดถึงคนอื่นๆเลย

ส่วนเรื่องราวของนางงาม หรือพฤติกรรมบางอย่างที่ไม่ดีของตัวนางงามเอง พี่เลี้ยงบ้าง กบก็พูด แต่พูดน่ะ เพราะรักวงการนี้ เจอเรื่องเน่าๆ เราไม่อยากให้มันเงียบ อยากตคแผ่ แต่สุดท้ายคนเจ็บตัวคือตัวเราเองนี่แหละ เอาเถอะ สู้ต่อไปละักัน นี่กบปลอบตัวเองนะเนี่ย

วันพุธที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ยิ้มสู้ !


มีคนชอบมาบอกแกมขู่จังว่า ปีหน้าเผาจริงนะมึง กบฟังแล้วแอบหวั่นๆเหมือนกันนะคะ เพราะสถานการณ์รอบๆตัวตอนนี้มันเริ่มมีสัญญาณตุตุออกมามากมายเหลือเกิน เริ่มแรกที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ คู่ค้าของบริษัทที่กบทำงานให้ มีมาตรการใหม่ในการกำหนดวันรับเช็ค จากเดิมเครดิต 30 เลื่อนเป็น 60 บางรายถ้ายาวถึง 90 กบก็บอกว่ากบไม่เอา เพราะมันไม่ไหวจริงๆ

แต่ที่แย่กว่านั้น ลูกค้า่หลายรายเก็บตังไม่ได้ โทรไปก็บ่ายเลี่ยงตลอด เดี๋ยวนี้ใน 1 วัน กบจะต้องมีเวลาอีกประมาณ 1 - 1ชั่วโมงคร่ึง ที่จะต้องโทรไปคุยกับลูกค้าเรื่องเก็บตัง มันใช่เรื่องของเราไหมเนี่ย เพราะบัญชีมันเอาไม่อยู่จริงๆ

มีคนบอกว่าถ้าเศรษฐกิจมันตกต่ำลงมาจนถึงก้นเหวสุดๆแล้ว มันจะดีขึ้นเอง ใช่สิ นี่มันหลักการแบบตรรกะมากๆ มันจะต่ำไปกว่านี้ได้ยังไง นักเศรษฐศาสตร์เค้าก็เชื่อกันอย่างนี้

แต่ในวัีนนี้ สิ่งนึงที่กบสัมผัสได้ก็คือ จิตใจคน และก็น้ำใจคนในยุคนี้ กบว่ามันเริ่มดูจะน้อยลงๆๆ แบบยังหาก้นเหวไม่ค่อยจะเจอเท่าไหร่ บ้านเราเป็นอู่ข้าวอู่น้ำ สมัยก่อนร้านก๋วยเตี๋ยวข้างบ้านกบ ชามละ 20 บาท น้ำแข็งเปล่าฟรี มีน้ำชา 1 เหยือก ไว้เติมกินกันไป

ล่าสุด ก๋วยเตี๋ยว 1 ชาม 30 บาท น้ำแข็งเปล่า 2 บาท น้ำดื่มขวดๆละ 12 บาท จากเดิมสมมุติว่า 1 อิ่ม จ่าย 20 บาท ของใหม่จะต้องจ่ายถึง 44 บาท ถ่้าเทียบแล้วเท่ากับว่ามื้อนี้เราจ่ายแพงกว่าเดิม 120% นี่คือค่าใช้จ่ายที่มันสูงขึ้น พร้อมกับน้ำใจคนไทยที่หายไป

เราเคยขับรถไปกลางทางแล้วรถตายไหม เคยเห็นไหม ว่าใครมาช่วยเรา ส่วนใหญ่จะเป็น Taxi นะ เค้าช่วยเรา เราก็ให้ตังเค้าเป็นสินน้ำใจ ส่วนใหญ่ไม่เอานะ เคยเห็นรถเก๋งหรือรถเบนซ์มาช่วยไหม ไม่ค่อยมีนะ แล้วถ้า Taxi ตายล่ะ รถเก๋งอย่างเราจะช่วยไหม ก็ไม่ค่อยช่วยนะ Taxi ด้วยกันเองนั่นแหละช่วยกัน

คนรวยน่ะมองว่าคนจนมีน้ำใจ แต่คนรวยคงไม่ลงมาช่วยคนจนหรอก นี่ไง น้ำใจคนไทย คนรวยคนจน

เวบ T-pageant ของกบ ปีหน้าจะรบ 2 ปี จะขึ้นสู่ปีที่ 3 แล้ว กบเองก็ยังไม่รู้ว่า ถ้าสถานการณ์เป็นแบบนี้ เราจะได้อยู่ด้วยกันอีกนานไหม แต่สถานการณ์แบบนี้ ยังไงกบก็เต็มที่แหละ สู้ๆ เพราะที่นี่เป็นบ้านที่เพื่อนกบ(ในโลกไซเบอร์) เยอะมาก และกบเองก็ใช้เวลาในนี้วันนึงเยอะมากเสียด้วย

วันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ผันหอยเป็นเงินหยวน


ตอนนี้นักโทษหนีคุกชายคนนึง มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ เป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรีกำลังหนีคุกอยู่ที่เมืองจีน จะว่าไป กบเองก็เลยอดที่จะนึกถึงท่านไม่ได้ สมัยอยู่เมืองไทย ท่านก็ฟาดหอยดาราเรียบวุดเหมือนกันนะ แต่จะว่าไป อยู่เมืองจีนนี่ก็ใช่ว่าจะหาหอยสวยๆจากเมืองไทยไปให้ฟาดไม่ได้ จริงไหมคะ เพราะเมืองจีนนี่อาแปะตัณหากลับเงินถุงเงินถังพร้อมจะเปย์เงินหยวนง่ายๆ ขอเพียงเป็นหอยดีมีระดับ มีการันตี มีใบเซอร์หน่อยว่า หอยนี้ม่ชาติตระกูล ถ้าเป็นดารา ก็ให้เอา VCD โชว์ผลงานเจ้าของหอยมาดูประกอบการส่วว่าวก่อนจะเจอหอยจริงก็ยังดี

ส่วนหอยบางตัว ไม่มีใบเซอร์ ไอ๊หย๋า อาแปะม่ายอาว สวยยังไงก็ไม่อาว สวยระดับนางงามแปะยังม่ายอาวเลย ก็ต้องหาตำแหน่งให้หอยเอาไว้การันตีอาแปะอีสักหน่อย

จะว่าไป ช่วงหลังๆเจอหอยย้อมแมวเสียบ่อย อาแปะหลายๆคนที่เมืองจีนพิสมัยหอยนางงาม ก็ไม่หนำใจ ก็เลยจัดประกวดนางงามระดับนานาชาติที่เมืองจีนมันเสียเลย จริงๆโดยหลักการบางเวทีมันก็ดี แต่บางเวทีก็แอบยัดไส้เอาเด็กไปค้าหอยถึงขอบเวทีด้วย

ดูอย่างพี่เลี้ยงเมืองไทยสิ ส่งนางงามน้องนาบ้านนาอยู่ดีดี ได้โกอินเตอร์ส่งหอยออกนอกไปไกลถึงเมืองจีน นัยว่าแฟนๆนางงามบอกว่าพี่เลี้ยงทำเพื่อชาติ แต่ไม่รู้เพื่อชาติหรือองคชาติอาแปะ ลำพังค่าลิขสิทธิ์ที่จะต้องส่งนางงามไปประกวดก็แพงบานตะเถือก ไหนจะค่าเสื้อผ้าเครื่องแต่งตัว สปอนเซอร์เมืองไทยรึก็ใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ

อีหนูเอ๊ย ไปประกวดแล้วก็หาค่าขนมกลับบ้านมาด้วย

ด้วยเหตุประการฉะนี้ ด้วยประการทั้งปวง ไม่ต้องแปลกใจเลย จะเห็นสองสาวหน้าแฉล้มที่เคยประกวดไำปแล้วจนค้างปี ก็ยังวนๆเวียนๆไปๆมาๆเมืองไทยเมืองจีนอยู่แบบนี้

ว่าแต่ว่า หอยตัวล่าสุดที่ส่งไป อาแปะอีบอกว่า เจี๊ยะบ่โละน่อ เพราะหอยอีโอคั่กๆ(ดำมักมาก)

Bolivia ใน Quantum Of Solace



Quantum Of Solace คือชื่อตอนล่าสุดของหนังชุดเจมส์บอนด์ที่กำลังเริ่มที่จะออกฉายทั่วโลก โดยดูเหมือนจะมีคนบอกว่า ประเทศไทยของเราเป็นประเทศแรกๆของโลกที่จัดฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยที่กบเองก็ได้ไปดูมาเมื่อวานนี้เองค่ะ จะว่าไปถือว่ากบก็เป็นคนแรกๆของโลกเลยสิคะเนี่ย ที่ได้ดูหนังชุดเจมส์บอนด์ตอนล่าสุดกะเค้า

จะเพราะว่าเราเป็นประเทศแรกๆในโลกรึเปล่านะที่ได้ดู ก่อนเริ่มฉายเลยมีอินโทรขึ้นจอดำตัวหนังสือขาวมาบอกว่า ห้ามลักลอบแอบถ่าย เพราะเป็นประเทศแรกๆของโลกที่ได้ดู กบบอกตรงๆ มันเหมือนเป็นการตอกย้ำในความเป็นประเทศที่ชอบละเมิดลุขสิทธิ์ของบ้านเรายังไงชอบกล โดยส่วนตัวกบไม่เคยอุดหนุนแผ่นผีนะคะ กบจะใช้โหลดเอามากกว่า อิอิอิ

มาเข้าเรื่องดีกว่า ความเป็นบอนด์ของภาคนี้อาจจะไม่ค่อยเหมือนเดิมนัก เพราะบรรดาอาวุธไฮเทคมีน้อยลงมาก แทบจะไำม่มีเลย ความกรุ้มกริ่มกับสาวๆของบอนด์ในภาคนี้ก็ไม่ค่อยมี

แต่ความมันส์ สนุกสนาน ตื่นเต้น ความดิบความเถื่อนของบอนด์ในยุคใหม่นี้กบว่าเกินร้อย หนังดูสนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกกก

เอกลักษณ์ของบอนด์คือมันเดินสายตามล่ากันทั่วโลกจริงๆ โดยแกนหลักของเรื่องนี้อยู่ที่ โบลิเวีย

ประเทศที่มีนายทหารปกครองประเทศ ได้อำนาจมาจากการรัฐประหาร และที่สำคัญนายทหาร ผู้ปกครองประเทศกำลังจะมีนโยบายให้สัมปทนาสิทธิครอบครองเหนือทะเลทรายที่เป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ของโบลิเวัียร์ โดยค่าใช้จ่ายเกินกว่าครึ่งของชาวโบลิเวียร์คือการต้องนำไปซื้อน้ำสะอาดดื่ม

ผู้ปกครองประเทศขายสัมปทานบนทะเลทราย ที่มีแหล่งน้ำขนาดใหญ่ซ่อนอยู่ข้างใต้ ไม่ต่างอะไรกับการขายสัมปทานให้ทุนใหญ่เข้ามาขูดเลือดขูดเนื้อกับชาวโบลิเวียร์ เราจะเห็นได้ว่า

นี่คือประเทศโบลิเวีย ที่ผู้คนยากจน ถนนหนทางยังดูแย่กว่าไทยเสียอีก แต่มีผู้นำประเทศที่ขายชาติ สิ่งที่ผุ้นำทำได้คือ ประชานิมยม แต่ประชาชนก็ยังยากจนมากๆ

ดูแล้วอดคิดถึงไทยเราไม่ได้นะคะ ผู้นำประเทศวูเอี๋ยกับทุนใหญ่อย่างอเมริกา เอาคำว่า ประชาธิปไตยมาบังหน้า

หารู้ไม่ว่า ทุนใหญ่มันคุยได้หมดแหละ ไม่ว่าจะรัฐบาลเผด็จการ หรือ ผู้รักประชาธิปไตย ขอให้มันได้ประโยชน์สูงสุดก็พอ...

วันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

สวยเป็นที่ประจักษ์



วงการนางงามระดับโลกของเราก็ได้ Miss International 2008 คนใหม่มาประดับโลกเรียบร้อยแลเวอีกหนึ่งคน โดยชื่อของเธอก็คือ Alejandra Andreu สาวน้อยจาประเทศเสปน รูปร่างหน้าตาก็ดังที่เห็นในภาพนั่นแหละค่ะ

จะว่าไป ความงามของสาวน้อยคนนี้ กบขอชื่นชมมากๆในแง่ของความงามที่มีนิยามคำจำกัดความว่า สวยเป็นที่ประจักษ์ นั่นคือ สวยแบบสากล ใครมองก็ต้องชมว่าสวย ชมได้แบบไม่มีข้อโต้แย้ง

ไม่เหมือนนางงามบางคนที่พวกพี่เลี้ยงผีสาง พยายามจะชอบออกมาเป่าหูว่า เนี่ย สวยแบบนี้คนไทยไม่ชอบนะ แต่ฝรั่งบอกว่า สวยมากกกกกกกกกกกก เหมือนนางฟ้า แตะต้องไม่ได้ เกดินเอื้อม แต่คนไทยเค้าเรียกแบบหนูว่า หน้าผี นะคะ เพราะหนูเขลอะมาก หัวเข่าดำ ผิวกระดำกระด่าง แขนใหญ่ นมไม่มี

ว๊ายยยยยยยยยยย ว่าจะไม่แขวะหน้าผีแล้วเชียว

เอาเป็นว่าเรากลับมาคุยเรื่อง สวยเป็นที่ประจักษ์ต่อดีกว่า บรรดานางงามของไทยเรา ในสายตากบ ที่กบมองว่าสวยเป็นที่ประจักษ์เอาเข้าจริงๆก็มีเยอะนะคะ อาทิเช่น เขี๊ยบ เยาวลักษณ์ ไตรสุลักษณ์ , นุสรา สุขหน้าไม้ , กวาง ฟ้ารุ่ง ยุติธรรม และคนล่าสุด น้องมิ้ม อัมราภัสร์ จุลกะเศียน สาวน้อยที่กำลังจะบินไปประกวด Miss World ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า่

จะว่าไป โดยพื้นฐาน หญิงไทยเราน่ะ กบว่าความสวยอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างสูงนะ คือจริงๆสาวไทยน่ะสวย แต่อาจจะขาดในแง่บุคลิกภาพ ความมาดมั่น และรูปร่างที่ยังไม่ค่อยเฟิร์ม รวมไปถึงจริตแบบสากล ที่มันทำให้เราไปสู้เค้ายังไม่ค่อยได้

หน้าสวยอาจจะเหมือนมีชัย แต่บุคลิกภาพก็สำคัญไม่แพ้กันนะคะ

เอาเป็นว่าวันนี้ สดชื่น ยินดีกับสาวเสปนคนนี้ดีกว่า เพราะเธอ สวยเป็นที่ประจักษ์ จริงๆ มองแล้วสบายตาดีนะคะ

วันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

บัญชีหนังหมานางงาม(3)

มีคนบอกกบว่า หมูเค้าจะหาม อย่าเอาคานเข้ามาสอด กบเองก็ว่าจะๆ จะไม่สาระแนเรื่องนางงามเข้าแล้วเชียว แต่แล้วก็อดไม่ได้ เพราะปีฆ้องจากเวทีดอกไม้(สีทอง)ของชาติมันเริ่มออกโหมโรง พร้อมกับรายนามเหล่าบรรดาว่า 18 สาวงามดอกไม้ของชาติ ที่หลายๆตัวในนั้นเป็นดอกไม้(สีทอง)ผ่องอำไพ ที่มหาชนที่ไหนที่มีสะตุ้งสตางค์ไม่มากไม่น้อย ก็สามารถฟาดหัวเด็ดมาเชยชมได้เพียงชั่วข้ามคืน

จะว่าไป สาวน้อยเรียลลิตี้ ที่เค้าว่ากันว่าเธอสวมบทบาทขาวีนประจำบ้านนางงาม เธอหน้าตาเรียกว่าสะสวยและหุ่นสูงชะลูด เข้าตาแมวมอง รวมไปถึงพี่เลี้ยงนางงามหลายคนที่มีอาชีพค้าจิ๋มนางงามเป็นอาชีพเสริม อยากรู้ว่า สาวน้อยเรียลลิตี้ คนนี้เคยไปค้าจิ๋มกับเจ๊มันแกวแห่งรร.สอนเดินแบบอินเตอร์ที่พาไปไกลถึงเวียตนาม และอีกหลายประเทศ ส่งตรงไปจนถึงตะวันออกกลาง ที่ว่ากันว่า ชีเซลล์เสียจนช่องคลอดชีถ่างจนแทบจะตลบขึ้นมาคุลมหัวแทนมงกุฏที่เรียกว่ามงกุฏดอกทองได้แล้ว

ล่าสุดเมื่อต้นปี สาวน้อยเรียลลิตี้ ริหาญกล้าเข้าท้าชิงที่เวทีซอยรางน้ำของคุณป้าผมม้า ว่ากันว่าคุณป้าผมม้าอีคัดนางงามสุดๆ พอประกาศชื่อ สาวน้อยเรียลลิตี้ ขึ้นมาว่าเข้ารอบได้เดินเฉิดฉายบนเวทีร่วมกับหุ่นประบอก บรรดากระจอกข่าวก็จ้อกแจ้กจอแจ เพราะจำวีรกรรมของสาวน้อยเรียลลิตี้นางนี้เมื่อสมัยเล่นเกมส์ผีผ้าห่มกับหนุ่มอีกคนในบ้านเรียลลิตี้ จนเค้าเฉดหัวออกมา

มีคนสงสัยว่า คุณป้าหน้าม้าอีคัดเด็กจะตาย ทำไมให้สาวน้อยเรียลลิตี้นางนี้เข้ามาเดินเฉิดฉายได้ งานนี้วงในพรายกระซิบแอบกระซิบมาว่า เค้าให้เข้าไปเดินเล่น กะจะขายข่าวลงหน้า นสพ มากกว่าว่าสาวเรียลลิตี้ อยากประกวดนางงาม

เอาเถอะค่ะ วีรกรรมค้าจิ๋มซึ่งเป็นอาชีพหลักของสาวน้อยเรียลลิตี้ ท่าทางจะเริ่มฝืดเคือง จากเดิมราคาดี พิษแฮมเบอร์เกอร์ไส้หอยระบาดหนัก สาวน้อยเรียลลิตี้ก็ราคาตกเอาๆ ชีเลยต้องผันตัวมาลงประกวดอีกครั้ง คราวนี้เล่นของสูง เวทีดอกไม้(สีทอง) ของชาติ ที่เอานางงามเน่ามาประดับวงการไปแล้ว คราวนี้ สาวน้อยเรียลลิตี้ผ่านการตรวจจิ๋มจากกรรมการหัวงูหลายตัว จนได้เข้ามายืนรอบสุดท้าย จะได้ไปต่อไหมไม่รู้ แต่ตอนนี้

อัพราคาแล้วจ้า !

น้องหน้าผี...พี่เลี้ยงพาดับ

ว่าจะไม่พูดอะไรถึงน้องเค้าแล้วนะคะ แต่มันอดคันปากยิบๆๆๆๆๆๆไม่ได้เลยค่ะ ไม่รู้ว่างานนี้อีกบจะโดนกองทัพพี่เลี้ยงนางงามเดินสายมาฉีกอกอีกไหม เพราะกบดันไปพูดถึงน้องหน้าผีเข้าอีกแล้วค่ะ

จะว่าไป เรื่องของเรื่อง มันก็ไม่ได้มีอะไรน่าพูดถึงสักเท่าไหร่ ถ้าไม่ใช่เรื่องของอีโก้ ความเริ่ด เชิ่ด หยิ่ง ของเหล่าพี่เลี้ยงกะเทยสมัครเล่น ฝีมือไร้ราคา มาตราฐานสั่วๆ ออกมายืนยันการันตีเป็นนักหนาว่า น้องหน้าผีได้กลายร่างเป็นนางฟ้าด้วยฝีมือการเนรมิตรของพวกเธอ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหน้าผม

แรกๆ กบดูเหมือนว่าจะดีนะคะ เพราะเห็นทีมงานเนรมิตรการแต่งหน้าให้เธอจนแลดูดีขึ้นมาก ตอนวันเอาภาพมาปล่อย แม้โดยรวมจะยังค่อนข้างเขลอะอยู่บ้างก็ตาม ส่วนเรื่องผมนี่ยอมรับเลยว่าเอาภาพมาปล่อยแต่ละที ผมยาวสวยถูกใจมากๆ

แต่ดูเหมือนว่าเรื่องมันไม่สมูธอย่างนั้น ภาพแห่งความเป็นจริงเริ่มปรากฏ เมื่อน้องหน้าผีต้องอยู่คนเดียว ไร้กะเทยคู่กาย น้องนางฟ้าหน้าผี กลับคืนร่างกลายเป็นน้องหน้าผีด้วยการออกงานทุกงานหน้ามันแผลบ ดำ เขลอะ มีคนติติงเข้า กะเทยที่ดูแลน้องหน้าผีจะต้องออกมาบอกว่า หน้าเธอเป๊ะ หน้าผีๆของน้องสวยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ส่วนผมที่ดูเหมือนจะยาวสลวย ก็กลายเป็นยาวฟู สยองไร้น้ำหนัก ดูหนามาก แต่กด็ฟูมาก ขับให้ใบหน้าที่มันแผลบนั้นหมองเอาๆ

เรื่องชุดราตรี จะว่าด้วยอีโก้ หรือตีโจทย์ผิด หรือคิดเองเออเอง หรือว่าไม่รู้เหนือรู้ใต้ ไม่เข้าใจภาษาอังกฤษกฎกติกากองประกวด ก็ไปเข็นเอาชุดใบไม้เน่าตากแห้ง มาให้ใส่ แพทเทิร์นชุดออกมาเหมือนชุดอาจารย์มหาลัยในวัยอีกสามปีเกษียณ ออกมาดับอนาถ แต่ก็ยังมีความหวังริบหรี่ว่าจะได้ใส่ขึ้นให้กรรมการได้ดูอีกรอบในรอบคัดเลือก งานนี้เข้าใจผิดไปใหญ่ ภาษาไม่แข็ง อ่านกติกาไม่เข้าใจ ชุดใบไม้เน่า โดนกรรมการให้คะแนนไปเรียบร้อยแล้ว งานนี้ถ้ากรรมการพอดีอยากจะทำบุญ อยากจองกฐิน ก็เอาผ้าขนหนูเหลืองมัดเป็นชะนีไปแขวนที่ร่างน้องหน้าผีได้เลยนะคะ

งานนี้ร้านใหญ่ร้านหลัก สปอนเซอร์ตัวจริงของต้นสังกัดไม่พอใจ ออกอาการวีนแตกแน่นอนค่ะ ก็มึงให้กูเป็นสปอนเซอร์หลัก แต่เสือกไปเอาชุดห้องแถวราคาถูกใบไม้เน่ามาใส่ให้หมอง นี่ถ้าคนเข้าใจผิดว่าร้านไหนทำ งานนี้่จะว่ายังไงล่ะเนี่ย

เรื่องราวน้องหน้าผีจะเป็นยังไงต่อไป กบว่าลุ้นสนุกนะคะ อย่างน้อยอีกสองวันก็เผาจริงแล้ว ว่าไม่ได้นะคะ...

วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ขอว่าด้วยเรื่อง อคติ

คำว่า อคติ แปลว่า ไม่เดิน, ไม่ไป หมายความว่า ไม่ควรเดิน ไม่ควรไป หรือไม่ควรประพฤติ อคติ ศัพท์นี้ตรงกับภาษาไทยว่า ความลำเอียง ความไม่เที่ยงธรรม, ความไม่ยุติธรรม มีอยู่ 4 อย่างคือ

1. ฉันทาคติ แปลว่า ลำเอียงเพราะรักกัน หรือเพราะชอบพอกัน เช่น การตัดสินคดีอธิกรณ์ พิพาทต่างๆ ก็ดี การแบ่งปันของก็ดี การพิจารณาให้ยศหรือรางวัลก็ดี ด้วยอำนาจพอใจรักใคร่กัน โดยตัดสินผู้ที่ชอบพอกันเป็นผู้ชนะทั้งๆ ที่ไม่ควรชนะ ให้สิ่งของที่ดี ให้ยศหรือรางวัลแก่คนที่ชอบพอกันทั้งๆ ที่ไม่ควรจะได้ กิริยาอาการอย่างนี้ เป็นการไม่ยุติธรรมอย่างหนึ่ง

2. โทสาคติ แปลว่า ลำเอียงเพราะไม่ชอบกัน หรือเพราะโกรธกัน เกลียดกัน ชังกัน เช่น การตัดสินคดีด้วยอำนาจความโกรธ เกลียดชัง โดยให้ผู้ที่โกรธนั้น เป็นผู้แพ้ทั้งๆไม่ควรแพ้ ให้ของที่เลวแก่ผู้ที่ตนเกลียดชัง ทั้งๆที่เขาควรจะได้ของดี ไม่ให้ยศหรือรางวัลแกผู้ที่ไม่ชอบกันทั้งๆ ที่เขาควรได้ กิริยาอาการอย่างนี้เป็นการไม่ยุติธรรมอย่างหนึ่ง

3. โมหาคติ แปลว่า ลำเอียงเพราะเขลาหรือเพราะความโง่หลงงมงาย ไม่พิจารณาให้ถ่องแท้ว่าอย่างไรถูก อย่างไรผิดอย่างไรควร อย่างไรไม่ควร เช่น เมื่อได้รับคำฟ้องแล้ว ยังไม่ทันได้สอบสวนให้รอบคอบ ก็ด่วนตัดสินผิดๆ พลาดๆ ขาดๆ เกินๆ ไม่ถูกต้อง ยังไม่พอดีตามที่ควร กิริยาอาการอย่างนี้เป็นการไม่ยุติธรรมอย่างหนึ่ง

4. ภยาคติ แปลว่า ลำเอียงเพราะกลัวหรือเพราะเกรงใจ เช่น ผู้มีอำนาจทำผิด ผู้พิพากษา ไม่กล้าตัดสินลงโทษเพราะกลัวเขาจะทำร้ายตอบ หรือผู้น้อยที่อยู่ในความปกครองทำความผิด ผู้ปกครองไม่กล้าลงโทษเพราะเกรงจะขาดความ เมตตากรุณา หรือกลัวว่าเขาจะเดือดร้อน กิริยาอาการอย่างนี้ เป็นการไม่ยุติธรรมอย่างหนึ่ง


ที่มาของคำว่า อคติข้างต้น กบคัดลอกมาจากคำสอนของ พระมหาอดิศร ถิรสีโลวัดราชบูรณะฯ กทม. ซึ่งกบเห็นว่ามันเป็นเรื่องที่ดี ที่ควรจะนำมาคุยกันค่ะ

มนุษย์เราทุกคน กบว่าแทบจะไม่มีใครหลุดพ้นจากคำว่าอคติได้เลย

อคติมันไม่ได้หมายความแค่ว่าเกลียดเลยอคติ แต่อคติเพราะรักก็เรียกว่าอคติได้เหมือนกันค่ะ

หรือรักเพราะต้องการคิดตรงข้ามกับคนที่เกลียด ก็เรียกว่า อคติเช่นกันนะคะ

ในชีวิตของกบ กบต้องผจญกับ อคติ ทั้งจากตัวเอง และคนรอบข้างมากมาย

คนที่จะเข้าใจเราได้ดีที่สุดคือตัวเราเอง

กบเองเลยไม่ค่อยจะแคร์ใครสักเท่าไหร่ค่ะ เพราะคิดว่า ท้ายที่สุด คนที่จะเข้าใจเราก้คือตัวเรา และคนที่เรารักดีกว่าค่ะ

วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

นางสาวไทย..คนสวยหายไปไหน

ตอนแรกเหมือนจะเปิดตัวมาสวยทีเดียว ตอนที่กบเห็นคนเข้ารอบ 40 คนสุดท้าย มีแต่สวยๆทั้งนั้นเลย ไม่ว่าจะเป็นน้องลูกปลา ทาดะ สาวลูกครึ่งไฮโซจากญี่ปุ่น น้องณัฎฐ์ รองอันดับ3 Miss Globe ปีล่าสุด ไปจนถึงน้องกอล์ฟ ที่เพิ่งเข้าประกวด MTU2008 หลายๆคนสวยและดีกรีดูดีมากๆ

แต่ท้ายที่สุด 18 คนสุดท้ายนางสาวไทยที่เข้ามา สภาพการณ์ไม่ค่อยต่างอะไรกับเวทีนางงามผ้าไหม ผ้่าซิ่น ธิดาครก ไห ชามกาละมัง ที่มันมีแต่นางงามเดินสาย เด็กฝากพี่เลี้ยงที่มีธุรกิจอื่นบังหน้า

กบเห็นรายชื่อคนเข้ารอบและเห็นหน้าแล้วรู้สึกยิ่งย่ำแย่ไปกับเวทีนางสาวไทยเข้าไปใหญ่ คนเข้ามาหลายคนเหมือนเด็กย้อมแมว เน่ามาจากเวทีอื่นๆ หาคนที่เหมาะสมได้ยากมาก

มีเด็กที่เข้าตาไม่กี่คน ที่โดดเด่นไปเลยก็พอมีพวกเด็ก มธ เกียรติ์นิยมเหรียญทอง กับ นิสิตแพทย์จุฬา กบว่าเค้าน่าจะเอาสองคนนี้มาขึ้นแท่นนะ แล้วเอาอีพวกเน่าหนอนมาเป็นตัวประกอบ

ท้ายที่สุด เวทีนางสาวไทยควรจะหายไปกับตำนานได้แล้ว ถ้ายังไม่ยอมพัฒนาอะไรให้มันดีกว่านี้....

วันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

มะเร็ง....โรคลมเพลมพัด

วันนี้กบดูรายการ VIP ค่ะ สัมภาษณ์คุณตั๊ก มยุรา ค่ะ เท่าที่กบจำความได้คุณมยุราเป็นดาราที่รักษาสุขภาพมากๆๆเลยค่ีะ เมื่อหลายปีก่อน กบเคยไปออกกำลังกายที่ รรเอราวัณ กบเจอคุณมยุราออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน กบจำได้แม่นว่า เธอเป็นคนที่ออกกำลังกายได้อึดมาก เยอะมาก และวิ่งในลู่วิ่งก็นานมากๆ

และสิ่งที่เราได้เห็นคือเธอรูปร่างดีมาก ผมสวย เงางาม แคล่วคล่อง และดูสาวและสวยกว่าวัยมากๆ ถือเป็นสาวพันปีคนนึงในวงการก็ได้

กบจำได้ว่าเคยอ่านสัมภาษณ์เกี่ยวกับการรักษาสุขภาพของเธอคือ เธอออกกำลังกายเยอะมาก ทานแต่อาหารที่ไม่มัน ทานผัก ผลไม้เยอะมาก ไม่ทานอะไรที่จะทำให้อ้วนได้เลย

วันนี้คุณมยุราเป็นมะเร็ง....


อึ้งค่ะ ได้ข่าวมาระยะนึง ตกใจมาก จนวันนี้ได้เห็นเธอในรายการ VIP ก็พบว่า คุณตั๊กมยุรา ผอมลงไปมากๆ ผอมจนน่าตกใจ เธอเล่าเหมือนตลกให้เราสนุกสนานว่า เธอผมร่วงเยอะมาก เธอน้ำหนักลงมาจาก 49 เหลือ 43 จนทุกวันนี้ต้องทานแต่ของมันๆให้อ้วน

เธอดูแลรักษาสุขภาพมาอย่างดี แต่เธอก็ยังเป็นมะเร็ง มะเร็งนี่มันมาได้ยังไงก็ไม่รู้ แต่มันไม่ใช่ของไกลตัวเราเลย

ทุกวันนี้เธออยู่ได้รักษาตัวเะองด้วยความรักและความเข้าใจจากคุณหนุ่ย สามีของเธอ ที่ค่อนข้างจะตามใจและให้อภัยซึ่งกันและกัน และอยู่กันด้วยความเข้าใจ ซึ่งช่วยให้คุณมยุรามีสุขภาพจิตที่ดี และยังดูแข็งแรงอยู่เสมอ

กบรู้สึกดีกับความรักที่เยียวยาจิตใจของคุณมยุราจังเลยค่ะ

กบเองขออวยพรให้คุณมยุราสุขภาพแข็งแรงมากๆ และอยู่กับประชาชนชาวไทยตลอดไปนะคะ

นางสาวไทยสู่ความตกต่ำ

ในอดีต นับแต่จำความได้ นางสาวไทย คือผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในประเทศไทย เป็นตำแหน่งที่มีเกียรติยศสูงสุด โดยเจ้าของเวทีนางสาวไทยตัวจริงคือ สมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนวชิราวุธ นั่นเอง กบจำความได้ กบจะเห็นการประกวดนางสาวไทยจากสถานีโทรทัศน์ช่องเจ็ด ใหญ่โต อลังการณ์มากๆ เพราะจะคัดผู้เข้าประกวดจากทั่วประเทศจนเหลือเข้าไปเก็บตัว 60 คน ซึ่งถ้าเทียบกับเวทีปัจจุบันนี้ที่เหลือ 18 คน ก็นับว่า นางสาวไทยยุคเก็บตัว 60 คนเป็นอะไรที่ใหญ่โตอลังการณ์มากมาย


มีคนถามว่า ทำไมเดี๋ยวนี้เก็บตัวกันเหลือแค่ 18 คน ตอบยากเหมือนกัน ในบอร์ด t-pageant.com บอกว่า มีคนตั้งข้องสังเกตว่า สาเหตุที่เหลือแค่ 18 คนเพราะว่าเค้ากะเอาจำนวนนางงามให้พอดีรถตู้สองคน บวกกับผู้ติดตามทีมงาน ใช้รถตู้สามคัน เวลาไปไหนมาไหนสะดวกดี แต่กบคิดว่าเค้าเอาง่ายเอาประหยัดมากกว่า


ไม่ต้องดูไกล เวทีระดับประเทศอีกเวทีนึง คัดสาวงามจนเหลือ 18 คนเหมือนกัน แต่ให้นางงามมาทำกิจกรรมแบบเช้าไปเย็นกลับ เพื่อประหยัดค่าที่พัก ตอนกลางวันกินข้าวกล่อง พวกกะเพราไข่ดาว ข้าวผัด กบดูแล้วอนาถใจสังเวชใจ ตกลงข้าวเลี้ยงนางงามหรือข้าวเอาไว้เยี่ยมคนในคุกก็ไม่รู้ ดีไม่แจกโอเลี้ยงให้คนละถุง ว่ากันว่างานนั้นเค้ามีงบอาหารให้ แต่ทีมงานกินกันเอง ดีหน่อยนะคะ บางมื้อทีมงานใจปล้ำ พานางงามยกโขยงไปกินสุกี้เอ็มเค ดูแล้วแปลกๆไหมล่ะคะ

มาเข้าเวทีนางสาวไทยกันต่อ ปีนี้นางสาวไทยย้ายวิกมาอยู่ที่โมเดิร์นไนน์ช่อง 9 เมื่อวานนี้คัดจากผู้เข้าประกวดทั่วประเทศจากกว่า 300 เหลือ 124 คน ก็งงอีกแล้ว ทำไมเหลือ 124 8น แต่ช่างมันเถอะ เพราะจาก 124 คนวันนี้จะคัดเหลือ 40 คน


แต่ 40 คนที่ได้คัดเข้ามา อย่าดีใจนาน เพราะพรุ่งนี้ทั้ว 40 คนจะโดนคัดเหลือแค่ 18 คนเท่านั้น ว่ากันว่าปีนี้ลูกท่านหลานเธอเยอะ และมีรายการคุณขอมาก็มาก ผู้ใหญ่ก็หลายสาย อย่าเกรงใจกันจนเอานางสาวไทยเน่าๆมาประดับทำเนียบอีกเลยนะคะ ขอที ขอคนสวย สมตำแหน่ง เพราะช่วงหลังๆมานางสาวไทยของไอทีวีนี่จะว่าไป บางคนดูดีเชียว แต่บางคนก็เน่าเชียว พรุ่งนี้กบจะมาวิจารณ์นางงามของเวทีนางสาวไทยไอทีวีเรียงตัวเลย

วันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

Midnight Meat Train (Spoil)


เมื่อสัปดาห์ก่อน กบไปดูหนังเรื่อง Midnight Meat Train แบบว่าจงใจเลย เพราะกบเป็นคนชอบดูหนังแนวสยอง โหดแบบนี้แหละ ทั้งๆที่จริงๆเป็นคนอ่อนหวาน มีคนบอกว่า คนที่ชอบดูหนังแนวนี้มาจากเบื้องลึกในใจเป็นคนที่ดิบๆ แต่ไม่จริงนะ กบว่ากบเป็นคนอ่อนหวาน ที่อยากเติมรสชาติอื่นๆเข้ามาในชีวิตมากกว่า

Midnight Meat Train เป็นเรื่องราวของ การกายตัวไปเรื่อยๆของคนในเมืองแห่งหนึ่ง โดยพระเอกมีอาชีพเป็นช่างภาพอาชีพที่อยากจะมีผลงานขึ้นโชว์สักครั้ง เค้าก็เลยมีโอกาสได้ไปถ่ายภาพนางแบบที่กำลังโดนลวนลามในสถานีรถไฟใต้ดิน แม้นางแบบจะรอดจากการถูกลวนลาม แต่เค้าก้พบว่าเธอหายสาบสูญไปในคืนนั้น หายไปกับรถใต้ดินรอบสุดท้ายตอนเที่ยงคืน

พระเอกของเราทำตัวเป็นนักสืบ ตามไปจนพบว่า มีนักชำแหละเนื้อผู้ต้องสงสัย ขึ้นมาจากสถานีรถไฟ พร้อมกับท่าทางน่าพิรุธ เค้าจึงแอบสะกดรอยตามนักชำแหละเนื้อนี้ไปจนพบว่า ทุกคืนรอบเที่ยงคืน นักชำแหละเนื้อนี่แหละจะคอยดักผู้โดยสารรอบเที่ยงคืนมาเอาค้อนปอนด์ทุบัวแล้วชำแหละศพ ส่งลงสถานีใต้ดินที่ไม่มีใครเคยเข้าไปพบ

เค้าพยายามแจ้งความ บอกเจ้าหน้าที่ ก็ไม่ได้รับการติดตามคดี จนแฟนสาวขอร้องให้เค้าหยุด แต่พระเอกก็ไม่ยอมหยุด จนในที่สุดเค้าก็พบว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในเมืองนี้ มันไม่ได้เพิ่งเกิด แต่มันเกิดขึ้นมาร้อยกว่าปีแล้ว และคนที่หายห็หายสาบสูญไปแบบไม่เคยมีใครตามคดีเลย

ท้ายที่สุด เค้าเอาตัวเองเข้าไปพัวพันกับนักชำแหละเนื้อ พร้อมแฟนสาวเค้าก็ต้องตกเป็นเหยื่อของการฆ่า พร้อมๆกับปริศนาที่ถูกไขว่า


แท้ที่จริง ทุกอย่างเกิดขึ้นจากการกระทำของมนุษย์ต่างดาว ที่มีพันธสัญญากับมนุษย์ว่าจะต้องส่งเหยื่อลงไปให้มนุษย์ต่างดาวขย้ำทุกคืน ไม่อย่างนั้น มนุษย์ต่างดาวเหล่านี้ จะบุกขึ้นมากินคนบนโลกมนุษย์ ทางการเจ้าหน้าที่รับรู้

และตอนนี้ นักชำแหละเนื้อคนปัจจุบันกำลังจะอ่อนระโหย หมดแรงทำงาน พระเอกมีทางเลือกแค่ ตาย หรือ คอยทุบหัวคนแทนนักชำแหละเนื้อคนเก่า


เรื่องราวที่แอบเหน็บแนมสังคมเล็กๆ เล่าผ่านเรื่องสยอง ทำให้กบรู้ว่า แท้ที่จริง ทำไมนะ เจ้าหน้าที่บ้านเมืองของเรา จึงได้เพิกเฉยกับความชั่วที่มันมีมาเรื่อยๆ แบบไม่รู้สึกรู้สาอะไร หรือเค้ามีพันธกิจที่ให้คำมั่นเอาไว้กับคนชั่วกระนั้นหรือ นั่นคือสิ่งที่ประชาชนรากหญ้าตาดำดำแบบกบไม่มีวันได้รู้ ดีไม่ดี ก้คงไม่รู้ต่อไปจนวันสุดท้ายของชีวิตตัวเองด้วยซ้ำ

เคยสงสัยไหมนะ ทำไมข้างบ้านมีบ่อนเปิดโจ๋งครึ่ง แต่ไม่โดนจับ

เคยสงสัยไหม เวบจาบจ้วงเบื้องสูง จนท รู้หมด แต่ไม่ทำอะไร

แผ่นผี CD เถื่อน วางขายเกลื่อนกลาด ตำรวจไทยไม่รู้เลยหรือว่าใครผลิต

นี่แหละค่ะ โลกของเราที่เต็มไปด้วย Hidden genda !