วันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2551

AUSTRALIA น้ำเน่าแบบฝรั่ง


เป็นคนโรคจิตประเภทนึงคือ ไม่ชอบคาดหวังอะไรกับหนังเลยสักกะเรื่อง ดังนั้นรักกันจริง ห้ามเชียร์ให้ไปดูหนังเรื่องอะไร เพราะถ้าได้ยินมาว่าดีมากๆๆๆ จะต้องคาดหวัง แล้วจะไปนั่งหักแต้ม จริงๆไม่เชิงหรอกค่ะ แต่ก็ดูแล้วชั่งน้ำหนักด้วยใจเป็นธรรมนั่นแหละ โดยเฉพาะในเรื่อง Australia เนี่ย กบคิดว่าจะต้องตั้งมาตรฐานที่สูงมากๆเอาไว้เพราะว่าเครดิต Baz Luhrmann นี่แบบว่ามันต้องคาดหวัง เพราะหนังของเค้าอย่าง โรมิโอจูเลียตกับมูแรงรูจมันขึ้นหิ้งไปแล้ว เป็นผู้กำกับที่มีแนวทางของตัวเองเป็นลายเซ็นต์ที่ชัดเจน อุปนิสัยแกจะเป็นไงไม่รู้ แต่ให้กบเดากบว่า Baz Luhrmann ต้องเป็นแต๋วแน่ๆ เพราะว่าสไตล์หนังของแกแต่ละเรื่อง งานกำกับศิลป์ออกมาให้กลิ่นอายซอยสองมากๆ

Australia เป็นเรื่องราวของมาดามแอชลีย์ แม่หม้ายจากประเทศอังกฤษที่ต้องมากอบกู้มรดกของสามีที่เสียชีวิตในประเทศ ออสเตรเลีย ด้วยการพยายามต้อนวัว 1,500 ตัวจากไร่ไปขึ้นที่ท่าให้ทัน เพียงเพ่อรักษาที่ดินไว้ และเธอก็จะได้พบกับโดรเวอร์ นักต้อนวัวที่ออกแนวดิบๆหน่อย คนขาวไม่ค่อยชื่นชอบนัก เพราะโดรเวอร์สนิทกับชนเผ่าอะบอริจินหรือคนดำที่เป็นคนพื้นเมือง โดยมีตัวละครอีกตัวคือ นัลลา เด็กน้อยลูกครึ่งคนขาว-อะบอริจินส์ เป็นตัวเล่าเรื่อง

หนังเหมือนจะชูประเด็นสองสามเรื่อง ที่แน่ๆคือความรัก และความแตกต่างของสีผิว ท่ามกลางฉากหลังเป็นยุคสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งเนื้อหาโดยรวมๆๆๆ กบคิดว่ามันเชยมากและก็ออกแนวน้ำเน่าฝรั่ง แต่อย่างที่บอก ไอ้น้ำเน่านี่แหละมันตรึงสายตาคนดูได้ชะงัดเอามากๆ เพราะหนังมันยาวประมาณ 165 นาที หรือ 2 ชม 45 นาที เนี่ย ปวดฉี่มากๆๆๆ กบยังไม่ยอมลุกออกไปฉี่เลย เนื่องจากหนังมันสนุกจริงๆ สนุกมากๆ และงานที่โดดเด่นมากๆก็คืองานเทคนิคทางด้านภาพ การถ่ายภาพ ลำดับภาพ กำกับศิลป์ เครื่องแต่งตัว แต่ที่มันด้อยก็คงจะเป็นการเดินเรื่อง พล็อตเรื่อง ที่กบคิดว่ามันจะยังดูไม่ลื่นมาก

นิโคลล์ คิดแมน เนี่ย กบว่าฝีมือเธอเป็นเทพไปเรียบร้อยแล้ว คือดูกี่เรื่องๆเธอก็สวมวิญญาณของบทนั้นได้อย่างกลมกลืนสุดๆ ในเรื่องนี้การแสดงของนิโคลล์ คิดแมน กบถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมากๆเลยค่ะ

ฮิวจ์ แจ๊คแมน หล่อมาก หล่อแบบโคตรพ่อโคตรแม่หล่อ รูปร่างช่วงบนนี่ทั้งหยา ปีกกว้างสุพดๆ แต่กบว่าการแสดงของ ฮิวจ์ แจ๊คแมนในเรื่องนี้ ความสามารถเค้าสูง แต่เหมาะที่จะแสดงละครเวทีมากกว่า สีหน้า แอ๊คติ้ง บางครั้งกบว่ามันแลดูเวอร์ไปหน่อย แต่บุคลิก มาด ความหล่อนี่เอาไปเลยเต็มร้อย

มีึคนถามว่า ทำไมฝรั่งมันไม่ชอบหนังเรื่องนี้ กบขอเดาเลยว่า แนวของหนัง รักระหว่างรบนี่มันจะออกไปเดินรอยตามหนังเรื่อง คาสซาบลังก้า กับ gone with the wind ที่มันขึ้นทำเนียบหนังคลาสสิคไปเรียบร้อยแล้ว ยากที่จะมีใครมาทำได้ทัดเทียม และมันไม่ใช่ของแปลกใหม่เลย และกบคิดว่า Baz Luhrmann พยายามทำหนังล้อหนังยุคเก่าๆพวกนี้ด้วย งานมันเลยออกมาเหมือนจะโชว์พาวเวอร์ในส่วนของงานกำกับศิลป์ที่มันโดดเด่นจน บดบังตัวหนังหมดเลย


สุดท้าย ยังไงกบว่าเรื่องนี้ก็ไม่ควรพลาดเลย ควรไปดูอย่างยิ่ง ขอแนะนำเลยค่ะ

และท้ายที่สุด กบมีภาพสวยๆจากหนังเรื่องนี้มาฝากแฟนคลับของหนังค่ะ

วันอังคารที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2551

เบื่อกะเทยชั่ว !


ก่อนอื่นต้องกราบขอโทษเพื่อนๆที่เข้ามาอ่านในบล็อกของกบในวันนี้ แล้วอาจจะเกิดอาการหวาดผวารูปประกอบ และบางคนอาจจะตกใจกับหัวเรื่องที่กบเอามาพูดวันนี้คือ เบื่อกะเทยชั่ว ! จริงๆกะเทยหรือคนธรรมดา มันจะชั่วก็ชั่วได้หมดแหละ ไม่ระบุเพศอะไรหรอก แต่ทำไมจำเพาะจะต้องมาเกิดมาเจอะมาเจอในบอร์ดที่ตัวเองดูแลอยู่ก็ไม่รู้

ยิ่งคนมากก็ยิ่งต้องเจอะต้องเจอค่ะ กะเทย หรือจริงๆ เค้าอาจจะอยากให้ระบุว่าตัวเองเป็นเกย์ ก็ได้เพราะไม่สาวแตก บางคนอาจจะรสนิยมบอกกับสังคมว่าเป็น รุก ด้วยซ้ำ แต่สันดานความชั่ว และสันดานขี้นินทามันยิ่งกว่ากะเทยสาวแตกปากหมาเสียอีก

บอกตรงๆว่าบางทีแอบเบื่อแอบเซ็ง กับกระบวนการใต้ดิน ที่บ้าบอด่าทอกันทาง msn มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว กำจัดไม่ได้หรอก ลำบากมากๆ ทำไงได้ อดทนกันไป แต่คิดไปคิดมา

กะเทยเนี่ย เป็นเพศที่มีรอยหยักในสมองเยอะเกินความจำเป็น คิด 1 ไป 2 ไป 3 ไป4 ไป 5 ไม่ได้ค่ะ จะต้องวกวนเลี้ยวลด ยิ่งกว่าเถาวัลยน์พันเกี่ยว และจิตใจก็คิดคดยิ่งกว่าหมอ..ยเสียอีก

เจ้าคิดเจ้าแค้นรึก็เท่านั้น ช่างวางแผนรึก็เท่านั้น

ปากคอรึก็เราะร้าย พูดจาด่าทอให้คนอื่นเจ็บช้ำน้ำใจรึก็เก่งที่หนึ่ง

หาพรรคหาพวก หาแนวร่วม ตั้งก๊กตั้งเหล่า ก่อสงครามไปวันๆไม่รู้จักจบสิ้น

บางคนที่มีวุฒิภาวะหน่อย เวลามีเรื่องก็ดูคนเดียวเงียบๆ แต่บางคนเงียบไม่เป็น ต้องไปหาแนวร่วม หาจากไหนก็ไม่พ้นจากอีพวกกะเทยหมาสงคราม ที่เห็นการทะเลาะเบาะแว้งเป็นของหวาน บางทีไม่ใช่เรื่องของตัว แต่ใจมันชอบยืนดูอยุ่ท่ามกลางความขัดแย้ง ก็เข้าไปก่อสงครามทันที เหมือนเป็นกะเทยทหารรับจ้าง

กะเทยบางคนก็มั่นหนังหน้าเหลือเกิน เห็นใครพรีเซนตืเกินห้าไม่ได้ เค้าจะสวยไม่สวยกูไม่รู้ กูขอจิกกัดไปก่อน เพราะถือว่าตัวเองสวยตัวเองหล่อ ก็ด่าเค้าไปทั่ว

เรื่องชั่วๆไม่ควรเกิดที่นี่เลย แต่ก็ต้องทำใจ เพราะสังคมเรามันใหญ่ขึ้นทุกวัน หวังเพียงไม่ให้มันลามไปเหมือนเชื้อห่านั่นแหละ...

วันจันทร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2551

Chicago Film Critic 2008 Result


สถาบันวิจารณ์ภาพยนตร์ชิคาโก ตัดสินให้ภาพยนตร์ เรื่อง Wall-E คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปท่ามกลางความฮือฮา เพราะ Wall-E นั้นเป็น Animation ที่ไม่มีคนร่วมแสดงเลย ส่วนรางวัลอื่นๆก็ติดตามชมได้เลยตามนี้ค่ะ



BEST DIRECTOR: Danny Boyle - Slumdog Millionaire
BEST ACTOR: Mickey Rourke - The Wrestler
BEST ACTRESS: Anne Hathaway - Rachel Getting Married
BEST SUPPORTING ACTOR: Heath Ledger - The Dark Knight
BEST SUPPORTING ACTRESS: Kate Winslet - The Reader
BEST ORIGINAL SCREENPLAY: WALL-E (Andrew Stanton & Jim Reardon)
BEST ADAPTED SCREENPLAY: Slumdog Millionaire (Simon Beaufoy)
BEST FOREIGN LANGUAGE FILM: Let the Right One In
BEST DOCUMENTARY: Man On Wire
BEST ANIMATED FEATURE: WALL-E
BEST CINEMATOGRAPHY: The Dark Knight (Wally Pfister)
BEST ORIGINAL SCORE: WALL-E (Thomas Newman)
MOST PROMISING PERFORMER: Dev Patel - Slumdog Millionaire
MOST PROMISING DIRECTOR: Tomas Alfredson - Let the Right One In...

วันเสาร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2551

THE ORPHANAGE





The Orphanage เป็นหนังผีเสปนฝีมือโปรดิวซ์โดยกีลเลอโม่ เดล โทโร่ ผกก. Pan’s labyrinthe กำกับโดย ฮวน อันโตนิโอ บาโยน่า เรื่องราวของลาร่า เด็กในสถานรับเลีร้ยงเด็กกำพร้าที่โชคดีมีคนเอาตัวไปอุปการะ จนเธอโต และเธอก็กลับมาอยู่ที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เธอเคยอยู่ในอีก 30 ปีข้างหน้า พร้อมสามีและลูกชายเจ็ดขวบที่สุขภาพไม่ค่อยดีเท่าไหร่

ลูก ชายของเธอมักจะมีเพื่อนเล่นในจินตนาการ ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้ใส่ใจ เพราะคิดว่าลูกชายของเธอนั้นสุขภาพไม่ค่อยดี และคงจะเป็นเรื่องปกติ แต่วันหนึ่ง เธอทะเลาะมีปากเสียงกับลูกชาย และเผลอไปตบหน้าลูกชาย แล้วลูกชายของเธอก็หายตัวไป

เธอไม่เคยเชื่อว่าลูกชายเธอตาย เธอตามหาทุกวิถีทาง ไปจนถึงการทรงเจ้าเข้าผี และก็พบว่าบ้านหลังนี้มีสิญญาณอยู่ และเธอก็เชื่อว่ามันน่าจะเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของลูกชายของเธอ


------------------------------


นี่ คือเนื้อเรื่องคร่าวๆนะคะ แต่ว่า หนังเรื่องนี้ ตอนแรกๆดูๆไปแล้ว กบไม่คิดว่ามันจะเป็นหนังผีเท่าไหร่ ออกแนวๆจะเป็นหนังดราม่าด้วยซ้ำไป แต่ว่ายิ่งดู ผู้กำกับยิ่งพาเราหวนเข้าไปในโลกลี้ลับของวิญญาณ ความตาย ซึ่งตัวหนังมันหลอนมากๆๆๆๆ รวมไปถึงสกอร์ในหนังที่กบถือว่ามันเอาอยู่โคตรๆเลยค่ะ สกอร์เริ่ดมาก เอามาฟังเดี่ยวๆเพราะมาก เอาไปใส่ในหนังก็จะหลอนมาก

นางเอกเล่นดีมาก การเดินเรื่อง การสร้างเงื่อนผมในหนัง ผู้กำกับเก็บทุกเม็ด ทำงานละเอียดมาก บทหนังฉลาดมาก ตอนที่กบจะไปดูตอนนั้นไม่ได้คิดเลยว่าหนังจะเริ่ดขนาดนี้ เพราะชอบหนังผี และก็คาดหวังว่า อาจจะเป็นหนังผีประหลาดๆของเสปนเรื่องนึง ที่เอาวะ ตอนนี้ใครๆก็จะไปดูแฮปปี้เบิร์ธเดย์หมด ก็เลยดูเรื่องนี้

ตอนออก มานอกโรง เห็นใบปิดก็เลยรู้ว่าหนังเรื่องนี้ได้รางวัลโคตรเยอะเลย กวาดรางวัลจากเทศกาลหนังบาร์เซโลน่าไป 9 รางวัล ได้รางวัลCinema Writers Circle Awards 8 รางวัล เข้าชิง Goya Awards 14 รางวัลได้ไป 7 รางวัล



เอาเป็นว่า ถ้าใครชอบหนังหลอนที่บทฉลาดๆ ดูแล้วอิ่มเอม เพราะว่าเราได้ดูหนังดีดีกบแนะนำค่ะ ฉายที่สกาล่าโรงเดียวค่ะ


สุดท้ายกบเอาลิสท์รางวัลที่หนังเรื่องนี้ได้มาให้ดูค่ะ

Academy of Science Fiction, Fantasy & Horror Films, USA ปี 2008
- เข้าชิงรางวัล Saturn Award สาขา Best Actress (เบเลน รูด้า)
- เข้าชิงรางวัล Saturn Award สาขา Best International Film

Barcelona Film Awards ปี 2007
- ได้รับรางวัล Best Actress (เบเลน รูด้า)
- ได้รับรางวัล Best Art Direction
- ได้รับรางวัล Best Cinematography
- ได้รับรางวัล Best Film
- ได้รับรางวัล Best Film Editing
- ได้รับรางวัล Best New Director
- ได้รับรางวัล Best Sound
- เข้าชิงรางวัล Best Score
- เข้าชิงรางวัล Best Screenplay (เซอร์จิโอ้ จี. ซานเชซ)

Broadcast Film Critics Association Awards ปี 2008
- เข้าชิงรางวัล Best Foreign Language Film

Butaca Awards ปี 2008
- เข้าชิงรางวัล Best Catalan Film

Central Ohio Film Critics Association ปี 2008
- ได้รับรางวัล Best Cinematography

Chicago Film Critics Association Awards ปี 2007
- เข้าชิงรางวัล Best Foreign Language Film

Cinema Writers Circle Awards, Spain ปี 2008
- ได้รับรางวัล Best Editing
- ได้รับรางวัล Best New Artist (ฮวน อันโตนิโอ บาโยน่า)
- ได้รับรางวัล Best Score
- เข้าชิงรางวัล Best Actress (เบเลน รูด้า)
- เข้าชิงรางวัล Best Cinematography
- เข้าชิงรางวัล Best Director (ฮวน อันโตนิโอ บาโยน่า)
- เข้าชิงรางวัล Best Film
- เข้าชิงรางวัล Best Screenplay, Original (เซอร์จิโอ้ จี. ซานเชซ)

European Film Awards ปี 2008
- เข้าชิงรางวัล Best Film (ฮวน อันโตนิโอ บาโยน่า)

Fantasporto ปี 2008
- ได้รับรางวัล Best Actress (เบเลน รูด้า)
- ได้รับรางวัล Best Director (ฮวน อันโตนิโอ บาโยน่า)

Fotogramas de Plata ปี 2008
- ได้รับรางวัล Best Movie Actress (เบเลน รูด้า)

Goya Awards ปี 2008
- ได้รับรางวัล Best Make-Up and Hairstyles
- ได้รับรางวัล Best New Director (ฮวน อันโตนิโอ บาโยน่า)
- ได้รับรางวัล Best Production Design
- ได้รับรางวัล Best Production Supervision
- ได้รับรางวัล Best Screenplay - Original (เซอร์จิโอ้ จี. ซานเชซ)
- ได้รับรางวัล Best Sound
- ได้รับรางวัล Best Special Effects
- เข้าชิงรางวัล Best Costume Design
- เข้าชิงรางวัล Best Editing
- เข้าชิงรางวัล Best Film
- เข้าชิงรางวัล Best Lead Actress (เบเลน รูด้า)
- เข้าชิงรางวัล Best New Actor (โรเจอร์ พรินเซ็ป)
- เข้าชิงรางวัล Best Original Score
- เข้าชิงรางวัล Best Supporting Actress (เจอรัลดีน แชปลิน)

Gerardmer Film Festival ปี 2008
- ได้รับรางวัล Grand Prize
- ได้รับรางวัล SCI FI Jury Award

Motion Picture Sound Editors, USA ปี 2008
- ได้รับรางวัล Golden Reel Award

Online Film Critics Society Awards ปี 2008
- เข้าชิงรางวัล Best Foreign Language Film
- เข้าชิงรางวัล Breakthrough Filmmaker (ฮวน อันโตนิโอ บาโยน่า)

Premios ACE ปี 2008
- ได้รับรางวัล Cinema - Best Actress (เบเลน รูด้า)
- ได้รับรางวัล Cinema - Best First Work (ฮวน อันโตนิโอ บาโยน่า)
- ได้รับรางวัล Cinema - Best Supporting Actress (เจอรัลดีน แชปลิน)

Sant Jordi Awards
ปี 2008
- ได้รับรางวัล Audience Award สาขา Best Film (ฮวน อันโตนิโอ บาโยน่า)

Satellite Awards
ปี 2007
- เข้าชิงรางวัล Best Motion Picture, Foreign Film

Spanish Actors Union ปี 2008
- ได้รับรางวัล Performance in a Minor Role, Female (เจอรัลดีน แชปลิน)
- เข้าชิงรางวัล Lead Performance, Female (เบเลน รูด้า)

Spanish Music Awards ปี 2008
- ได้รับรางวัล Best Score

Sao Paulo International Film Festival ปี 2007
- เข้าชิงรางวัล International Jury Award

World Soundtrack Awards ปี 2008
- เข้าชิงรางวัล Discovery of the Year

Young Artist Awards ปี 2008
- เข้าชิงรางวัล Best Performance in an International Feature Film - Leading Young Performer (โรเจอร์ พรินเซ็ป)

วันพุธที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2551

คนไทยชอบดูทีวีมากกว่าอ่านหนังสือ ?



ระยะหลังๆมานี่ สถานการณ์ภายในบอร์ดที่กบทำอยู่จะออกแนวอึมครึม โดยเฉพาะเวลาที่กบคุยเรื่องการเมือง หรือโพสกระทู้การเมืองขึ้นมาในบอร์ดหลักที่กบทำอยู่ กบเองก็รู้นะว่ามีคนพยายามจะให้กบทำบอร์ดการเมืองแยกออกไปต่างหาก เพราะเค้าชอบบอกว่าเค้าเบื่อการเมือง ไม่อยากเอาการเมืองมาปะปนในบอร์ดหลักเกี่ยวกับนางงาม ซึ่งโดยส่วนตัวของกบแล้ว กบไม่เคยคิดเลยว่าการเมืองมันจะไปสร้างความรำคาญอะไรให้กับคอนางงามตรงไหน เพราะไม่ว่าจะจั่วชื่อกระทู้เนี่ย ถ้าคนอ่านหนังสือออกมันก็ต้องรู้ว่าเป็นกระทู้การเมือง

และทีนี้เสน่ห์ของกระทู้การเมืองมันมีอะไร ให้สังเกตว่า กระทู้การเมือง ถ้าตั้งในบอร์ดหลักทีไร จะต้องมียอดคนอ่านและคนรีพลายมหาศาล มากกว่าสองหน้าสามหน้า บางทีปาเข้าไปห้าหน้าหกหน้า ร่วมจะร้อยรีพลายเอา แต่ก็มีหลายรีพลายเข้าไปร้องแรกแหกกระเชอบอกว่า มาโพสทำไม ให้ไปโพสที่บอร์ดการเมือง

คนที่เข้าไปโวยวายนี่ก็หน้าเดิมๆ ซึ่งกบเองก็อยากจะบอกเหมือนกันว่า กฎกติกา ถ้ามันเดินตามช่อง ตามครรลองเป๊ะๆ มันก็ทำให้บอร์ดดูทื่อ ในเมื่อกบเองในฐานะคนทำบอร์ด โพสกระทู้การเมืองของตัวเอง ในบอร์ดหลัก นั่นย่อมแสดงว่า กบพร้อมที่จะรับผิดชอบในกระทู้นั้นๆ และกบจะทำการย้ายกระทู้เมื่อถึงเวลาอันสมควร ซึ่งกบก็คิดว่า กบไม่ได้ไปฆ่าใครตาย และกบก็มีสิทธิ์ที่จะโพสได้ เพราะกบคอนโทรลกระทู้และบอร์ดทั้งหมดด้วยตัวของกบเอง

แต่บางคนก็เห็นทนโท่นะคะว่า คนโพสมันก็คือชื่อกบโพส ก็พยายามจะเข้าไปจี้ ย้ำ ตลอดเวลาว่า ไหนว่าโมให้มีห้องการเมืองทำไมไม่ไปโพสที่ห้องการเมือง ก็จริงๆจะมาถามทำไม หลายๆคำถามที่ถามย้ำๆๆเนี่ย กบมีควยามรู้สึกว่า คนถามต้องการจี้ ย้ำประจาน ประณามกบ ที่เป็นคนโพสกระทู้การเมืองนั่นแหละ น่าแปลกใจที่ว่า คนถามแต่ละคน มีความรู้ความสามารถถึงขั้นเขียนหนังสือเป็น ไม่น่าจะโง่จนอ่านหนังสือไม่ออกว่า นี่คือกระทู้การเมืองที่เจ้าตัวรังเกียจ แล้วจะเข้ามาอ่านทำไมให้ขุ่นข้องหมองใจ

คนบางคนในบอร์ด ไม่เคยช่วยเหลืออะไร แต่เรียกร้องจะเอาโน่นเอานี่ มีเรื่องเดือดร้อนอะไร ให้ทางบอร์ดช่วยดูแลระบบมากมาย รวมไปถึงระบบการตรวจเช็คข้อความส่วนตัว ที่ก็ไม่ได้มีไว้ทำอะไร นอกจากเอาไว้นินทาชาวบ้านในบอร์ด ซึ่งปกติ ถ้าไปเล่นบอร์ดอื่นๆ ไม่ต้องใหญ่โตเท่านี้ แต่เป็นบอร์ดเล็กๆ ก็ยังต้องใช้เวลาเป็นวันๆ หรือการขอเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามแฝง ก็เปลี่ยนกันง่ายยิ่งกว่าเปลี่ยนถุงตีนเสียอีก

วกไปนอกเรื่องเสียนานเลย จริงๆวันนี้แค่อยากจะบอกว่า กบรู้สึกนะคะว่า คนไทยเราเนี่ย อ่านหนังสือออกนะคะ แต่ไม่ชอบอ่านหนังสือ หนังสือพิมพ์มีหลายสิบหัว แต่ไม่อ่าน ชอบไปให้คนเล่าข่าวตอนเช้าอ่านให้ฟัง หรือชอบดูการวิเคราะห์ข่าวตามทีวี จนมีประเด็นนึง ที่มีสมาชิกในบอร์ด ตีอกชกหัว บ่นอย่างเดียวว่า ทำงานทำธุรกิจท่องเที่ยว เศรษฐกิจเจ๊ง ท่องเที่ยวเจ๊งเพราะพันธมิตรยึดสนามบิน ไม่ว่าจะอธิบายยังไง คนพวกนี้ท่องเป็นว่า

เศรษฐกิจเจ๊ง เพราะพันธมิตรยึดสนามบิน
ธุรกิจมีหนี้ เพราะพันธมิตรยึดสนามบิน
ไม่มีตังใช้ เพราะพันธมิรยึดสนามบิน

เค้าท่องเป็นแค่นี้จริงๆ ม็อบอะไรมาก็ไม่เอา เพราะกลัวเศรษฐกิจเจ๊ง

กบก็เลยสงสัยว่า คนพวกนี้เค้าจะรู้ไหมนะว่าตอนนี้

เศราฐกิจอเมริกาก็เจ๊ง กำลังคนซื้อน้อยมาก คนอเมริกา ไปจนคนยุโรป ไม่มีกำลังซื้อ ไม่อยู่ในอารมณ์ที่อยากจะออกมาท่องเที่ยว ไม่รู้ว่า คนพวกนี้ถ้ารู้เข้า จะบ่นไหมว่า อเมริกาเจ๊งเพราะพันธมิตรยึดสนามบิน

สาระ เหตุ และ ผล มันมีอยู่ในตัว แต่ไม่เคยคิดจะอา ไม่เคยคิดจะขวนขวายอ่าน แต่ตีอกชกหัวเป็นอยู่คำเดียวว่า เพราะพันธมิตรยึดสนามบิน กบคิดว่า บางทีต่อล้อต่อเถียงกับคนพวกนี้ไปมากๆ หลังจากที่เราอธิบายจนปากเปียกปากแฉะแล้ว กบว่า ต่อไปให้คนพวกนี้ไปอยู่ใน รู ต่อไปดีกว่า...

วันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2551

66th Golden Globe Nominations 2008


Best Motion Picture - DRAMA
The Curious Case of Benjamin Button
Frost/Nixon
The Reader
Revolutionary Road
Slumdog Millionaire

Best Motion Picture - COMEDY/MUSICAL
Burn After Reading
Happy-Go-Lucky
In Bruges
Mamma Mia!
Vicky Cristina Barcelona

Best Actor - DRAMA
Leonardo DiCaprio, Revolutionary Road
Frank Langella, Frost/Nixon
Sean Penn, Milk
Brad Pitt, The Curious Case of Benjamin Button
Mickey Rourke, The Wrestler

Best Actress - DRAMA
Anne Hathaway, Rachel Getting Married
Angelina Jolie, Changeling
Meryl Streep, Doubt
Kristin Scott-Thomas, I've Loved You So Long
Kate Winslet, Revolutionary Road

Best Actor - COMEDY/MUSICAL
Javier Barden, Vicky Cristina Barcelona
James Franco, Pineapple Express
Colin Farrell, In Bruges
Brendan Gleeson, In Bruges
Dustin Hoffman, Last Chance Harvey

Best Actress - COMEDY/MUSICAL
Rebecca Hall, Vicky Cristina Barcelona
Sally Hawskins, Happy-Go-Lucky
Frances McDormand, Burn After Reading
Meryl Streep, Mamma Mia!
Emma Thompson, Last Chance Harvey

Best Supporting Actor
Tom Cruise, Tropic Thunder
Robert Downey Jr. Tropic Thunder
Ralph Fiennes, The Duchess
Phillip Seymour Hoffman, Doubt
Heath Ledger, The Dark Knight

Best Supporting Actress
Amy Adams, Doubt
Penelope Cruz, Vicky Cristina Barcelona
Viola Davis, Doubt
Marisa Tomei, The Wrestler
Kate Winslet, The Reader

Best Director
Danny Boyle, Slumdog Millionaire
Stephen Daldry, The Reader
David Fincher, The Curious Case of Benjamin Button
Ron Howard, Frost/Nixon
Sam Mendes, Revolutionary Road

Best Screenplay
The Curious Case of Benjamin Button
Doubt
Frost/Nixon
The Reader
Slumdog Millionaire

Best Original Score
Alexandre Desplat, The Curious Case of Benjamin Button
Clint Eastwood, Changeling
James Newton Howard, Defiance
A.R. Rahman, Slumdog Millionaire
Hans Zimmer, Frost/Nixon

Best Original Song
"Down to Earth"-WALL*E
"Gran Torino"-Gran Torino
"I Thought I Lost You"-Bolt
"Once in a Lifetime"-Cadillac Records
"The Wrestler"-The Wrestler

Best Animated Film

Bolt
Kung Fu Panda
WALL*E

Best Foreign Language Film
The Baader Meinhof Complex-Germany
Everlasting Moments-Sweden
Gomorrah-Italy
Waltz With Bashir-Israel
I've Loved You So Long-France

วันอังคารที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ลูกชั้น ชั้นมีปัญญาเลี้ยง


ว่าจะไม่ออกมาแฉซะแล้ว ไอ้เรามันคนคันปากก็อดที่จะแฉไม่ได้ เพราะอดรนทนไม่ได้จริงๆ ตามภาษาคนบ้านางงามที่เริ่มรู้สึกว่า เอ๊ะ ในวงการนางงามนี่ทำไมมันช่างเน่าเฟะกันเสียจริงๆ ที่แย่ที่สุดก็จะเห็นได้ว่า มีกระบวนการเอานางงามมาเป็นสินค้า หาประโยชน์ให้ตัวเองอย่างน่าขยะแขยงและน่าสะอิดสะเอียนที่สุด เรื่องราวมันไม่ควรจะเกิด และกบจะไม่แตะเลย ถ้ามันไม่ทำให้ในวงการคนออนไลน์ที่ดูนางงามและตามข่าวนางงามผ่านเวบไซต์อย่างพวกเราเสื่อมเสียชื่อเสียง เพราะอะไร ก็เพราะอีคนทำเวบจัญไรบางตัวมันเอานางงามมาไว้เป็นเครื่องมือทำมาหาแดกไงคะ !
เป็นช่างภาพดีดี บอกว่างานถ่ายภาพเป็นงานหลัก นางงามเป็นงานรอง แต่ลับหลังเอานางงามส่งอาแปะที่เมืองจีนยังพอทำเนา ล่าสุดลามปามไปเลียบๆเคียงๆนางงามค่ายใหญ่ระดับประเทศ ไปทายบทามลงประกวด เอ้ยไม่สิ ไปทาบทามรองนางงามจากเวทีใหญ่ระดับประเทศให้ไปร่วมกันค้าหอย หวังให้เจริญรอยตามน้องหน้าผี ที่ตอนนี้หอยเธอมีเสี่ยตีตราจองไปเรียบร้อยแล้ว


งานนี้ช่างภาพหน้าแหก เพราะนอกจากจะไม่ได้หอยนางงามไปเร่ขายแล้ว ยังโดนแม่นางงามตอกดหน้ากลับว่า
ลูกชั้น ชั้นมีปัญญาเลี้ยง
งานนี้คาดว่าคงจะไม่หยุดความจัญไรไว้แต่เพียงเท่านี้ เพราะหลังจากที่ปลุกปั้นจนน้องหน้าผีมีเสี่ยมาเลี้ยงสมใจก็แล้ว ปลุกปั้นนางงามอินเตอร์ร้อยเวที ที่เข้ารอบทุกเวทีจนมีผัวเป็นคนไต้หวันเป็นตัวเป็นตนก็แล้ว งานนี้แว่วๆว่าจะไปทายทามนางงามจากเมืองนอกเมืองนา จากดินแดนที่เค้าว่ากันว่าเป็นจังหวัดที่77 ประเทศไทยให้มาอยู่ร่วมกระบวนการค้าหอย ก่อนส่งลงเวทีใหญ่ปีหน้า
รอดูกันต่อไปนะคะว่า ไวรัสที่เกาะกินเวบมันจะลามไปเกาะกินใจพี่ช่างภาพผู้เก่งในด้านการสร้างภาพรึเปล่า !

วันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2551

สงครามบอร์ดนางงาม ตอนที่1

กบเคยคิดนะคะว่าชะตากรรมมันเล่นตลกกับตัวกบเองมาก จนไม่คิดว่าวันนึงจะต้องมานั่งเป็นเจ้าของบอร์ดนางงาม และมีเพื่อนๆเล่นกันเยอะแยะมากมายถึงขนาดนี้ จะให้เรียกว่าบอร์ดนางงามอันดับ 1 ของประเทศไทยก้ว่าได้ เพราะสมาชิกเนี่ยเอาลงทะเบียนแน่นอนก็ตกร่วมหมื่นนะคะ แต่ถ้าเราจะบอกว่าเรามีสมาชิกเป็นหมื่น เดี๋ยวจะโดนหาว่าเราคุยข่มและเวอรืเกินไป แต่ก็เอาเป็นว่า เรามีสมาชิกเข้าๆออกๆไม่น่าจะต่ำกว่า 4,000 - 5,000 คนแน่นอน คนเข้าบอร์ดของกบต่อวันไม่ต่ำกว่า 15,000 คน Ranking ในระดับประเทศจะวิ่งๆอยู่ที่ 250 - 300 ก็นับว่าน่าพอใจเป็นเวบที่มี Traffic ในลำดับต้นๆ

แต่ถ้าจะย้อนกลับไปตั้งแต่ยุคแรกๆของบอร์ดนางงามแล้วกบเองก็ต้องขอเท้าความกันยาวเลยว่า สมัยแรกๆกบไม่ได้เคยชอบดูนางงามมากมายเลย แต่ชอบเข้าเวบไซต์ไปเรื่อยๆ การประกวดนางงามคือ event นึงที่กบสนใจ แต่ไม่สนใจมาก แต่มีโอกาสได้เข้าไปในเวบบอร์ดสัมย voy ของไทยที่เราเรียกว่าบอร์ดพี่ปุ๋ย และมีการโพสข้อความของกลุ่มกะเทยที่กบอ่านแล้วขำ เพราะกะเทยแต่ละนางเนี่ย มีความรู้เรื่องนางงามเยอะมาก กบเองก็ชอบเข้าไปป่วนๆกวนๆ แต่ก็ชอบไปหาภาพมาโพสให้เค้าดูด้วย

จนไปสะดุดตอ เพราะกบไปเอาภาพมาจากเวบไซต์ thailandpageant มาลงเข้า ซึ่งก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะคิดว่ามันคือการแบ่งปันกันในโลกออนไลน์ แต่สุดท้าย ทางเจ้าของเวบนั้นมาฟาดหวงฟาดหาง ฟาดงวงฟาดงา ออกมาด่าว่าห้ามไปเอาภาพเค้ามาลง แล้วเค้าก็ไปคาดเอาคำว่า THAILANDPAGEANT มาคาดหน้านางงามทุกภาพ หลังจากนั้นกบเลยหมายหัวว่า อีเจ้าของเวบ THAILANDPAGEANT นี่ใจแคบฉิบหาย ขี้งกและไม่มีการรู้จักการแบ่งปันเอาเสียเลย แต่กบก็ไม่แคร์ก็ยังคงไปเอาภาพมาลงเหมือนเดิม ใครจะไปใส่ใจมันล่ะ มึงมีปัญญาคาดหน้าก็คาดไป กบมีปัญญาไปเอามาลงก็เอามาลง จำได้ว่า MTU ปีแรกที่เราเริ่มเล่นกันคือปีลูกจันทร์ และกบก็จำได้ว่าปีนั้นออย ลลิตา อภัยวงศ์ เป็นตัวเต้ง แต่ก็โดนอีเจ้าของเวบผีนรกนั่นไปใส่ไฟจนน้องเค้าได้แค่รอง1 แต่เอาเถอะ อย่างน้อยลูกจันทร์ก็เป็น MTU ที่เวิร์คพอสมควร

การเล่นเวบบอร์ดของพวกกบก็ยังคงอยู่ในบอร์ด VOY พร้อมๆกับการเปิดตัวของเวบบอร์ดช่อง7 ที่เวบบอร์ดของมันจะเปิดแบบรายปี พอมี MTU ใหม่ ก็จะล้างบอร์ดเก่าแล้วเปิดบอร์ดใหม่ไปเรื่อยๆ ถามว่าสนุกสนานดีไหม กบว่ามันก็สนุกในแบบยุคนั้น และตัวละครหลายๆตัวก็เริ่มโลกแล่น มีบทบาทในบอร์ดนางงามขึ้นมาเรื่อยๆ เท่าที่กบจำได้คือ คุณดิ ฉั น , หนูนา , คุณโก้ ,คุณทาทา ,คุณรันม่า ,คุนอาหงส์ ,อาจารย์บุ๋ม , ดาว มยุรี ปีหน้าลงประกวดแน่ ไปจนน้องสาวของกบเองคือ แพรวพรรณ ไทยทรง ช่วงนั้นเรียกได้ว่าเป็นยุคทองของการป่วนบอร์ดนางงาม

วันๆไม่ต้องคิดไรมาก อีแพรวพรรณ ทำพายุ กับปล่อยภาพน้องฉ่ำเต็มบอร์ดไปหมด ส่วนกบก็จะโพสวิจารณ์นางงามแบบตรงๆ สาดเสียเทเสีย ถามว่าสนุกไหม ก็สนุกนะ และสมาชิกทุกคนก็ดูจะรักกัน ด่ากันให้ตาย สุดท้ายก็มากอดคอคุยกันเหมือนเดิม

แต่ก้มีคนขวางโลกคนนึง ปรากฏกายขึ้นในช่วงที่พวกเรากำลังสนุกสนานกัน การปรากฏกายของเค้าจะออกไปในแนวทาง เด็กแนว ชอบไม่เหมือนคนอื่น และอยากที่จะโดดเด่น แต่ก็ดูเหมือนคนไม่ค่อยสนใจนัก แต่เค้าก็หาทางไปด้วยการไปร่วมมือกับเจ้าของเวบพี่เลี้ยงนรก แล้วเปิดโดเมนแนมเวบนางงามขึ้นมา ซึ่งปัจจุบันเวบนั้นคือเวบไวรัสนั่นเอง

เรื่องราวต่อไปจะเป็นยังไง กบจะมาต่อตอนสองละกันนะคะ....

ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่27 ???


,kจนตอนนี้การจัดตั้งรัฐบาลก็ยังคงฝุ่นตลบอยู่ดี เพราะว่ายังไม่ค่อยจะแน่ใจเท่าไหร่ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จหรือไม่ เนื่องจากปัจจัยหลักอยู่ที่ตัว สส ของทางกลุ่มเพื่อนเนวินที่ว่าจะยอมย้ายข้างมาสนับสนุนพรรคปชปหรือไม่ นึกไปนึกมาแล้วก็สะท้อนใจนะคะ

สส ประเทศไทย หาอุดมการณ์ไม่เจอ จะเลือกข้างไหนก็ยังไม่สามารถเลือกได้ ถามว่าต้องการอะไร สส พวกนี้ขอเงินค่าหัวไม่ก็ตำแหน่งก็เป็นพอ การเมืองแบบไทยๆมากับผลประโยชน์และเม็ดเงินนี่แหละ นึกแล้วสังเวชแทนประชาชนชาวไทยจริงๆที่มี สส แบบนี้มาทำงานให้ชาติบ้านเมือง

มาดูที่คุณอภิสิทธิ์กันบ้าง ทันทีที่มีกระแสข่าวว่าอาจจะได้เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็มีกระแสข่าวออกมาทันทีเกี่ยวกับเรื่องการหนีทหาร แม้ทางเจ้าตัวจะออกมาแก้ข่าวแล้วว่า ตัวเองเข้ารับราชการทหารด้วยการโชว์ใบ สด8 แทน อีพวกควายมันก็ยังออกมาตะแบงว่าหนีทหาร

คนพวกนี้ไม่ใส่ใจดูข้อเท็จจริง ไม่ใส่ใจตามข่าวหรืออะไรเลย เหมือนอย่างที่คนพวกนี้ยังเข้าใจอยู่ว่า ASTV นั้นศาลปกครองคุ้มครองอยู่ ทั้งๆที่จริงศาลนั้นตัดสินไปนานแล้วว่า ASTV ออกอากาศได้อย่างถูกต้อง แถมทางกรมประชาสัมพันธ์ยังต้องจ่ายค่าเสียหายให้ ASTV อีกต่างหาก

การเมือง ข่าวสาร ช่วงนี้เป็นเรื่องของ การเสนอข่าวถูกใจกูแปลว่าเป็นสื่อดี เสนอข่าไวม่ถูกใจกูแปลว่าเป็นสื่อชั่ว

กบว่าพอๆกันทั้งสองฝ่าย แต่ถ้าเอากันจริงๆ กบว่าคนไทยไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือ และไม่ชอบหาข้อมูลเองนะคะ ส่วนมากจะชอบดูรายการข่าวแบบเล่าข่าว ไม่ก็รายการพูดๆเล่าๆมากกว่า เค้าเอาอะไรมากรอกหูก็เลือกแต่ข่าวที่ถูกจริตตัวเองไปเสียหมด

ท้ายที่สุดนี้ กบเองก็ยังหวังนะคะว่า คุณอภิสิทธิ์ จะได้เป็นนายก ถ้าได้เป็นแล้ว สิ่งที่กบกวังอยากจะให้รีบจัดการโดยด่วนคือ

1.pantip.com ประชาไท ฟ้าเดียวกัน ช่วยเข้าไปดูหน่อยเถอะ กระบวนการจาบจ้วงในหลวงนี่ตัวแม่ๆอยู่ในนี้หมดเลย
2.ดำเนินการกับผู้มีส่วนรับผิดชอบในการสั่งปราบประชาชนในวันที่ 7 ตาคม ด้วยค่ะ
3.ถอดยศและริบคืนพาสปอร์ตเล่มแดงจากคุณทักษิณให้ว่องเลย รวมไปถึงการเร่งดำเนินการขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนนะคะ

ก็หวังว่าเหตุหารร์จะเริ่มนิ่งในเร็ววันนะคะ....

วันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2551

SUPERSTAR !!!!



มีคนบอกว่า มริโอ เมาเรอร์นี่แหละคือ SUPERSTAR ตัวจริงเสียงจริง ณ วันนี้ เพราะนิตยสารทุกหัว ถ้าหัวไหนไม่เคยเอามาริโอขึ้นปก แปลว่าหนังสือหัวนั้นตกกระแสสุดๆ บังเอิญว่ากบเองก็ไม่ค่อยตามกระแส ก็เลยไม่ค่อยได้ตามข่าวมาริโอกะเค้าเท่าไหร่

ชื่อของ มาริโอ เนี่ย กบได้ยินครั้งแรกก็เมื่อเวบเกย์เวบหนึ่งพยายามโพสภาพเด็กหนุ่มหน้าตาลูกครึ่งคนนี้ในแฟชั่น set เปลือยอกถอดเสื้อ เพื่อยั่วน้ำลายเกย์ แต่กบมองไปแล้วก็เฉยๆ เพราะโดยส่วนตัวไม่มีรสนิยมพึงใจในเด็กลูกครึ่งเท่าไหร่ และเท่าที่ทราบ ณ ตอนนั้นคือประมาณสองปีก่อน น่าจะยังเรียนมัธยม ขนอุยก็เพิ่งจะขึ้นที่หน้าท้องเล็กน้อย รูปร่างก็อวบๆตามภาษาเด็กมัธยมวัยกำลังจ้ำม่ำ

จนต่อมา มาริโอ คือดารานำในบท โต้ง จากหนังไทยสะท้านโลเกย์เรื่อง รักแห่งสยาม ในฉากดูดปากกับน้องพีช เด็กชายอีกคนในเรื่อง เรียกเสียงกิ๊วก๊าวให้กับแฟนๆสาวกไม่ว่าจะเป็นสาววาย ที่บ้าคลั่งผู้ชายรักร่วมเพศ ไปจนถึงเกย์ๆที่บ้าคลั่งน้องมาริโอ

ในปีเดียวกันนั้น น้องมาริโอ โด่งดังจนสามารถคว้ารางวัล Zap Man Of The Year 2007 เมื่อปีก่อนไปได้ มาจากคะแนนโหวตอย่างท่วมท้นของชาว T-Pageant แท้ๆเลยค่ะ

เรื่องราวของมาริโอก็ยังโคจร โลดแล่นในวงการบันเทิงอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับภาพยนตร์เรื่องที่สองคือ เฟรนด์ชิพ กระแสหนังเรื่องนี้แป้กสนิท รายได้ดับอนาถ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร อาจจะเพราะไม่มีฉากมาริโอดูดปากกับผู้ชายหรือเปล่า หรือมาริโอจะต้องกลับมาเล่นบทเกย์อีกครั้ง

ผลงานมาริโอ มีเยอะมากมาย ส่วนมากจะเป็นถ่ายแฟชั่น ถ่ายโฆษณา น่าจะเรียกได้ว่าเค้าคือสุดยอดพรีเซนเตอร์ แต่ในแง่ความเป็นนักแสดง ยังไม่มีงานไหนที่น่าจดจำเลย นอกจากรักแห่งสยาม ที่ผ่านไป 1 ปีแล้ว ชาวพันทิปมันก็ยังรวมพลของมันกันอย่างบ้าคลั่ง ประหนึ่งว่าสาววายและสาวกของรักแห่งสยามเหล่านั้นจะไม่รู้จักหนังเรื่องไหนอีกแล้วในโลกนี้

กระแสมาริโอ ก็ยังคงเปรี้ยง เพราะทราบมาว่าล่าสุด ค่าเหนื่อยในการแสดงหนังต่อเรื่องไม่น่าจะต่ำกว่า 1 ล้านบาท พร้อมๆกับข่าวฉาวเรื่องการเปลี่ยนตัวผู้จัดการส่วนตัว ที่ผุ้จัดการส่วนตัวคนเก่าออกมาแฉว่า น้องมาริโอ ติดแฟนสาว เสียเพราะแฟน และที่รับไม่ได้คือ เบี้ยวภาษีจะให้ผุ้จัดการจ่ายส่วนต่างกว่า 37 % !

โอ้ววววว พระเจ้า ภาษีดารา มันเป็นภาษีก้าวหน้า มีรายได้มากก็จ่ายมาก อันนี้มันน่าเห็นใจนะ เพราะระบบภาษีเรามันก็น่าจ่ายนะ ถ้ามันได้คืนกลับมาในการพัฒนาประเทศและรัฐสวัสดิการที่ดีกว่านี้ แต่เราจะไม่พูดเรื่องภาษีล่ะ เราจะมาพูดเรื่อง มาริโอ กับเรื่องส่วนตัวและความเป็นซูเปอร์สตาร์

กบชื่นชมมาริโอในเรื่องการเป้นตัวของตัวเองในเรื่องของความรักที่ว่า ดังขนาดนี้ก็ยังรักแฟนมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แฟนเอาชุดบ้าๆบอๆมาให้ใส่ก็ยังใส่ น่ารักมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ รวมไปถึงการตามอกตามใจแฟนสาวเอามากๆ กบว่ามาริโอน่ารักดีนะ และคิดว่าแฟนๆอย่าไปว่าแฟนน้องเค้าเลย เพราะถ้าเรารักมาริโอเราต้องรักแฟนเค้าด้วย ใช่ว่าเค้าเลิกรากันแล้วเค้าจะมาเอาเราเป็นแฟนรึก็เปล่า

แต่สรุปมาจนบรรทัดนี้ กบว่ามาริโอยังห่างไกลกับคำว่าซูเปอร์สตาร์มากกก กบว่ามาริโอ ในวันนี้น่าจะเรียกว่า พรีเซนเตอร์ในกระแสมากกว่านะคะ....

วันพุธที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ปิดม่าน(ชั่วคราว)พันธมิตร

วันนี้เวลา 10.00 ก็เป็นเวลารูดม่านชั่วคราวของการชุมนุมยืดเยื้ออันยาวนานกว่า 193 ของกลุ่มพันะมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ออกมาชุมนุมเพื่อขัดขวางมิให้มีการใช้อำนาจรัฐและอำนาจในสภาอันมิชิบธรรมเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อพวกพ้องตัวเอง จบลงทันทีหลังจากการปิดแกของพรรคพลังประชาชนนั่นคือการโดนตัดสินจากศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคในข้อหาโกงการเลือกตั้ง อันทำให้ได้มาซึ่งอำนาจรัฐ

กลุ่มพันธมิตร คือการรวมตัวกันของกลุ่มประชาชนโดยมีแกนนำคนสำคัญคือ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล และพลตรีจำลอง ศรีเมือง

คุณสนธิ ภาพพจน์ไม่ดีนัก เพราะหลายๆคนบอกว่าแกชั่ว แต่เนื้อแท้ที่กบได้สัมผัส แกอาจจะชั่วตรงไหน อภัยได้ไหม กบหาไม่เจอ แต่กบรู้ว่าแกเป็นผู้เฒ่าเลือดจีนที่จงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อย่างมาก สวื่อในมือกอย่าง ASTV MANAGER และสถานีโทรทัศน์ ASTV ทำหน้าที่สื่อออกมาได้อย่างดีเยี่ยม นำเสนอทุกอย่างตีแผ่ความจริงในอีกด้าน ในยามที่บ้านเมืองเราอยุ่ในยุคมืดบอดทางปัญญาเพราะสื่อปกติบ้านเราต่างเสนอแต่รายการไร้สาระเต็มไปหมด ใครจะคิดว่า เทียนแห่งธรรม ของกลุ่มพันธมิตร ที่จุดเล่มเล็กๆ จะกลายเป็นเพลิงเผาผลาญนักการเมืองชั่วในวันนี้ บรรหาร ศิลปอาชา ปิดฉากการเมืองของตัวเองไปพร้อมกับซากจัญไรของพรรคชาติไทยที่มีอายุ 34 ปี และอาจจะเป้นการจบฉากตระกุลศิลปอาชาในสุพรรณบุรีก็ได้

มหาจำลอง ที่มีคนด่าแกมากมาย แต่กบนับถือในมันสมอง ความฉลาด และการวางแผน เหมือนกุนซือทหารฝ่ายเสนาธิการที่จัดกระบวลพันธมิตรออกมาอย่างมีประสิทธิภาพ ชายแก่ในวัย 70 แก่ๆจะเข้า 80 ถ้าเป็นคนปกติ คงอยู่บ้าน ปลูกต้นไม้เลี้ยงหลานไปแล้ว แต่ภาพที่กบเห็นคือลุงจำลองยังเรียบ ง่าย สมถะ และป้าศิริลักษณ์ ภรรยาลุงจำลองก็ยังถีบจักรยานรอบทำเนียบ ออกมาเก็บขยะทุกเชา ภาพต่อไปนี้เราคงจะไม่ได้เห็นชั่วคราว

พันธมิตรอาจจะรูดม่านลงชั่วคราว พร้อมกับวีรกรรมที่พวกเค้าสูญเสียชีวิต เงินทอง ลงไปเพื่อธำรงค์ไว้ซึ่งสถาบัน บ้านเราเป็นหนี้บุญคุณพันธมิตรในครั้งนี้ กบขอชื่นชมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไว้ ณ ที่นี้ค่ะ

ด้วยจิตรคารวะ
กบ

วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2551

Teeth กลีบเขมือบ จิ๋มขย้ำ

เห็นความพิลึกกึกกือของตัวหนังมาร่วมครึ่งปี แล้วคิดในใจว่า เออนะ คนเรามันก็ช่างคิดนะ พล็อตเรื่องสุดแสนจะบรรเจิดว่า ถ้าจิ๋มผู้หญิงมันมีฟันออกมาขย้ำจู๋ผู้ชายได้มันคงจะพิลึกกึกกือพิสดารน่าดู เรื่องที่มันไม่น่าจะทำเป็นหนังได้ ก็ทำออกมาจนได้ ด้วยความคิดที่ดุเหมือนจะสร้างสรรค์แต่ก็ไม่ค่อยจะน่าดูเท่าไหร่

นางเอกของเรื่อง เธอมีเขี้ยวอยู่ในจิ๋ม และเป็นคนที่เชื่อในเรื่องพรหมจรรย์ แต่เธอก็ยังอยากรู้อยากเห็นอยากลองในฐานะสาวรุ่น และจิ๋มเธอก็ขย้ำจู๋เข้าจนได้

เนื้อหาวนๆเวียนๆอยู่กับจิ๋ม จิ๋ม และก็จิ๋ม จิ๋ม จิ๋ม เรียกได้ว่า ผู้ชายคนไหนได้ดูหนังเรื่องนี้ดูไปต้องเอามือกุมเป้าไปด้วยความหวาดเสียว

ผู้ชายบางคนถ้ามีประสบการณ์กับจิ๋มมีเขี้ยวแบบนี้ อาจจะต้องหันไปเปลี่ยนรสนิยบมพิสมัย ตูด แทน จิ๋ม

ภาพหลายๆภาพในหนังชวนหวาดเสียวมากๆ เช่นจู๋ท่อนนั้น ที่โดนจิ๋มขย้ำ ก็โดนหมาคาบไปรับประทาน ดูแล้วน่าขนพองสยองเกล้าเป็นยิ่งนัก

เนื้อหาเรื่องราวของหนังก็ชวนสยองแบบพิลึกกึกกือนั่นแหละ

กบดูแล้วกบสงสัยเหมือนกันนะคะว่า ผู้กำกับมันเป็นเกย์รึเปล่า มันจินตนาการจิ๋มได้น่ากลัว น่าขนลุกขนพองสยองเกล้าเสียขนาดนั้น เพราะเอาเข้าจริงๆ จิ๋มมันก็คือช่องคลอดที่เราต้องออกมาจากช่องนี้แหละ เพื่อลืมตาดูโลก จิ๋มมีลักษณะเฉพาะตัว ยืดหยุ่นได้ มีน้ำหล่อลื่นด้วย เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมลุกล้ำเข้าไป แต่มันไม่น่าจะมีเขี้ยวออกมาเพื่อต่อต้านสิ่งที่รุกล้ำเข้าไปอย่างที่ในหนังว่านะคะ

ภาพรวมๆของหนัง ดูเพลิดเพลิน สนุกปนหวาดเสียวเล็กน้อย นางเอกแสดงดีมากค่ะ หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูตามภาษาสาวใสวัยทีนที่กำลังอยากรู้อยากลองและอยากเสียตัว


ใครอยากจะลองดู กบแนะนำว่าต้องลองดูนะคะ....

วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

หมอบุ๋ม นางสาวไทยคนใหม่


นางสาวไทยคนใหม่ประจำปีนี้เธอมีชื่อว่า น้องบุ๋ม พรรณประภา ยงตระกูล อายุ 20 ปี สูง 167 ซม กำลังเรียนอยู่คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์

มีคนบ่นว่า นางสาวไทยปีนี้เป็นเด็กจุฬา แถมเรียนหมออีกต่างหาก บางคนบอกว่า เป็นนางสาวไทยเพราะโพรไฟล์ แต่ในภาพรวม กบคิดว่า หมอบุ๋มคนนี้ก็น่าจะได้รับการยอมรับมากมายพอสมควรนะคะ

เพราะว่าก่อนหน้านี้ หมอบุ๋มเคยได้เป็นรองมิสทีนไทยแลนด์มาแล้ว รุ่นน้องแม่มา อาเมเลีย จาค็อปนั่นแหละ

หมอบุ๋ม เป็นนางสาวไทยที่กบคิดว่า เธอสวย โดนใจกบพอสมควรเลย

ส่วนการที่เธอชื่อบุ๋มแล้วจะพฤติกรรมเหมือนผู้หญิงที่ชื่อบุ๋มอีกคนไหม ในระยะยาวต้องดูกัน

แต่ภาวนาให้หัวโขนที่จะนำหน้าชื่อเธอว่า พญ.ในอนาคต คงจะทำให้เธอมียางอาย ไม่เหมือนอีกบุ๋มนึงนะคะ


แต่ไหนๆพูดแล้ว ก็ขอวกไปดูรอง2 อีกคนที่ชื่อน้องเบียร์ ดูแล้วไอ้เราก็อดจะคิดไม่ได้ตามภาษาคนขี้สงสัยว่า หน้าตาเธอก็ไม่สวย ตัวก็ดำ เอ๊ะ หรือจะฉลาด แต่พอการตอบคำถามก็จบเห่ เพราะเธอสมองกลวงมาก เอาเถอะ เป็นเรื่องปกติของเวทีนี้ ที่จะต้องมีประหลาดๆโผล่มาทุกปี

ส่วนนางพยาบาลนายทหาร น้องปาล์มรอง1 ไม่ต้องพูดมาก เธอสวยและน่ารักโดนใจหนุ่มๆหลายคนแน่นอน แต่ใครอยากจะเธอต้องป่วยนะคะ อิอิอิ เพราะเธอเป็นนางพยาบาลไงคะ...

วันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

หรือฉากสุดท้ายจะจบที่สุวรรณภูมิ


เมื่อคืนนี้กบไปสมทบกับแฟนและหลุ่มผู้ชุมนุมี่ทำเนียบรัฐบาล เอ้ย ไม่ใช่สิ ต้องเรียกว่าทำเนียบประชาชนถึงจะถูก เมื่อคืนนี้ (28 พฤศจิกายน 2551) ที่ทำเนียบฯ คนยังคงหนาแน่นเหมือนเคย ตามภาษาคืนวันศุกร์ พ่อแม่พี่น้องที่ไปร่วมชุมนุมหลายๆคนก็ยังคงเป็นกลุ่มผู้หญิง คนแก่ เหมือนเดิม โดยที่น่าแปลกใจก็คือ กบคิดว่าคนมันยังคงหนาแน่นมากๆ แต่ทำไมทางรัฐบาลออกมาบอกว่ามีคนไม่น่าจะเกิน 300 คน แต่ก็ช่างมันเถอะ จำนวนคนเท่าไหร่ก็ไม่เท่าใจจริงไหมคะ

กบกลับมาถึงบ้านก่อนเที่ยงคืน เพราะบ้านของกบใกล้ทำเนียบรัฐบาลมากๆ จนตื่นมาตอนเช้า กบก็ได้ฟังในรายการของพี่ปองก็เลยได้ทราบว่า ตอนนี้ทางการเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภายใต้การบัญชาการของ พลตำรวจเอกปทีป ฯ รักษาการ ผบ.ตร ได้เข้ามาสนธิกำลังกับทหารป่าหวายแล้ว โดยมีการปิดล้อมผู้ชุมนุมเพื่อที่ชุมนุมอยู่ในสุวรรณภูมิ เพื่อตัดกำลังไม่ให้ส่งอาหารเข้าไปในกลุ่มผู้ชุมนุมได้ ถ้าใครอยากชมการสลายการชุมนุมสดๆก็ติดตามได้ทาง ASTV นะคะ

ลุงจำลองแจ้งให้ผู้ชุมนุมที่อยู่ในทำเนียบ ตามไปสมทบที่สุวรรณภูมิ ให้เราไปล้อมตำรวจที่กำลังล้อมพี่น้องประชาชนอีกทีหนึ่ง

เรื่องราวทั้งหมด จะเป็นละครฉากสุดท้ายที่ปิดฉากลงที่ท่าอากาศสุวรรณภูมิหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่พูดถึงสุวรรณภูมิ ที่เค้าว่ากันว่า มันคือมหากาพย์แห่งการทุจริต คอรัปชั่น ของประวัติศาสตร์ชาติไทย

สุวรรณภูมิ คือประตูสู่ประเทศไทย ที่เหมือนกล่องดวงใจของรัฐบาล และเหมือนกล่องดวงใจของคนไทยบางคน ที่ทำท่าเหมือนจะตายเวลาโดนควบคุม สุวรรณภูมิแลดูเหมือนทรงคุณค่ามากกว่าชีวิตพี่น้องพันธมิตรที่เสียไปเนื่องจากการโดนระเบิดยิงเข้ามาจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ

ณ เวลานี้ ทางตำรวจได้วางระดับสถานการณ์ในสุวรรณภูมิว่าเป็นการก่อการร้ายเรียบร้อยแล้ว และ ณ ขณะนี้ 8.00 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บล็อกไม่ให้คนเข้าดอนเมืองเพื่อเอาอาหารเข้าไปส่งแล้ว ขณะนี้ข้างในดอนเมืองและสุวรรณภูมิยังไม่ได้ทานข้าวปลากันเลย

สุวรรณภูมิ กล่องดวงใจของคนไทย ?

ตำนานของการคอรัปชั่นที่ยิ่งใหญ่

มันจะเป็นฉากสุดท้ายของการต่อสู้ที่ยาวนานมากว่า 180 วันหรือเปล่า

วันนี้รู้ค่ะ !

วันพุธที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

Political Greed! เกย์กับการเมือง

กบเปิดห้องสนทนาการเมืองให้กับเพื่อนๆแฟนนางงามในบอร์ด T-Pageant มาได้ประมาณ 2 สัปดาห์แล้วนะคะ แรกๆที่ผ่านมา เหมือนว่าห้องมันจะเงียบๆนะคะ แต่ตอนนี้ห้องเริ่มคึกคัก และที่สำคัญ เริ่มมีการแตกกระจายทางความคิดมากขึ้นค่ะ

http://www.t-pageant.com/webboard/viewforum.php?f=35

สมาชิกหลายๆคนที่เข้ามาพูดคุยในห้องการเมือง มีความคิดเห็นที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะฝ่ายเสื้อแดง หรือ ฝ่ายเสื้อเหลือง หรือแม้แต่เสื้อขาว(ส่วนใหญ่จะขาวจอมปลอมเสียมากกว่า)

โดยภาพรวม กบว่า เกย์ ไม่ค่อยชอบแสดงความเห็นทางการเมืองมาก ไม่รู้เพราะอะไร ส่วนหนึ่ง กบคิดว่าพวกเค้าอาจจะคิดว่า การต่อสู้เพื่อเสรีภาพในเพศตัวเองก็ลำบากพออยู่แล้ว จะไปวุ่นวายอะไรกับการเมืองให้มันปวดกบาลล่ะ จริงไหม

แต่ที่กบได้สัมผัสมา กบคิดว่าเกย์หลายๆคนก็มีความคิดลึกซึ้งเกี่ยวกับการเมืองพอสมควรเลยนะคะ

สำหรับเวทีของ Political Greed ! กบเองก็พยายามนะคะ ที่จะทำให้เป็นห้องของเกย์กับการเมือง ที่จะได้เข้ามาสามารถแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับบ้านเมืองได้ อย่างน้อยแม้จะเสียงเล็กๆ เราก็ได้แสดงบนเวทีของเราไป โดยไม่ต้องมาอ้างว่าเราเป็นเกย์การเมืองแต่อย่างใด จริงไหมคะ ?

วันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

The House Bunny


The House Bunny
กบตัดสินใจตีตั๋วเข้าไปชมหนังเรื่อง The House Bunny เมื่อวานนี้ ท่ามกลางบรรยากาศบ้านเมืองตึงเครียด เข้าไปดูช่วงบ่ายๆ เพราะรู้สึกอยากจะหย่อนใจเอามากๆ แล้วก็ไม่ผิดหวังกับตัวหนังเลยสักนิด
The House Bunny นี่ถ้าใครได้ชมภาพยนตร์ตัวอย่างมาก่อนหน้านี้ กบคิดว่าก้คงพอจะเดาเนื้อหาของหนังเรื่องนี้ได้ นางเอกของเรื่องคือ Shelly เด็กกำพร้าที่เหมือนลูกเป็ดขี้เหร่ ตอนเด็กไม่สวย แต่มาสวยตอนโต และได้เข้ามาอาศัยอยู่ในคฤหาสถ์ของ PLAYBOY โดยความใฝ่ฝันของเธอคือการที่จะได้เป็นสาวหน้ากลางของนิตยสาร PLAYBOY แต่ความฝันเธอก็ต้องพังทลายในเช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากงานเลี้ยงวันเกิดของเธอ เธอถูกไล่ออกจากบ้าน ด้วยสาเหตุที่ว่า เธอแก่เกินไปที่จะอยู่ในคฤหาสถ์ของสาวๆ PLAYBOY
SHELLY ตระเวณหางานอย่างคนไร้หลักแหล่ง เธอต้องผจญเหตุการณ์ต่างๆ จนติดคุก และก็หลุดเข้ามาในโรงเรียนแห่งหนึ่ง และได้จับพลัดจับผลูมาดูแลเด็กเนิ้ดกลุ่มนึงที่เฉิ่มๆ ใส่แว่นหนาเตอะ แต่พวกเธอจะต้องให้มีคนมาสนใจ ด้วยการสมัครเข้ามาอยู่ในบ้าน ZETA ของพวกเธอ ก่อนที่บ้านจะโดนยึด
แน่นอนเรื่องดำเนินรอยตามสูตรสำเร็จ SHELLY ศึกษาเด็กเนิ้ดเหล่านั้น พร้อมๆกับที่เด็กเนิ้ดเหล่านั้นก็ได้ศึกษา SHELLY และทุกอย่างกำลังจะไปได้สวย เด็กเนิ้ดกำลังจะแปลงร่างเป็นหงส์ และกำลังจะมีคนมาสนใจเข้าบ้าน ZETA มากมาย SHELLY ก็โดนเรียกกลับไปถ่ายหน้ากลางของ PLAYBOY โดยเรื่องร้ายๆที่เคยเกิดกับเธอนั้นคือการโดนกลั่นแกล้งนั่นเอง
กบขอสรุปเรื่องย่อเท่านี้ แต่เรื่องนี้ยังคงเดินรอยตามสูตรสำเร็จของฮอลลีวู้ด กับ หนังวัยรุ่น ที่เน้นเรื่อง การเป็นตัวของตัวเอง การเคารพตัวเอง การยอมรับในความแตกต่าง การเข้าใจในตัวผู้อื่น และการเคารพในตัวผู้อื่นด้วย เรื่องราวเหล่านี้ ฮอลลีวู้ดแลดที่นำมาสอดแทรกให้เราดูแล้วกบว่ามัน เนียน แต่สำหรับหนังไทย บางทีแลดูยัดเยียดจนเกินไป
กบเดินออกมาจากโรงหนัง พร้อมหัวสมองที่โล่งๆโปร่งๆและสบายใจขึ้นเล็กน้อย
ชีวิตสุขสันต์ของเรา คือการพักผ่อนหย่อนใจ บางทีกบคิดว่ากบเครียดกับตัวเองมากไปนิดนึง
อยากจะบอกเพื่อนๆที่เข้ามาอ่าน blog นี้ว่า
เราต้องยอมรับกันและกันแล้วกันนะ
อยากด่าก็ด่าไปเถอะ กบปล่อยเสรี ไม่ลบหรอกค่ะ
รักนะคะ...
กบ

วันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ตำนานชายตัดไม้


กบเข้าไปอ่านในเสรีไทยแล้วเจอนิทานที่เค้าแต่งมาให้อ่านเรื่องนึง เปรียบเทียบเอาไว้ได้ดีมากเลยค่ะ ก็เลยเอามาแชร์ให้เพื่อนๆได้อ่านกันดูค่ะ

หากเปรียบว่า พันธมิตรดังคนตัดไม้ที่ได้โค่นต้นไม้พิษไปแล้ว แต่รากของมันก็ยังอยู่ แล้วกำลังเริ่มเติบโตอีกครั้ง
แต่มาคราวนี้ มันแตกหน่ออย่างรวดเร็ว เหมือนธรรมชาติที่เราไปตัดแต่งกิ่งต้นไม้ มันก็จะงอกงามแตกพุ่มอย่างรวดเร็ว

คนตัดไม้หารู้ไม่ ว่าจุดสิ้นสุดของคนที่ได้โค่นต้นไม้พิษได้มาถึงแล้ว

ในระยะสุดท้าย

กำลังวังชาที่เหลืออยู่ก็ถดถอย ถูกก่นด่าและต่อว่า จากคนที่อาศัยอยู่รอบข้าง
เพราะขาดต้นไม้พิษมาให้ร่มเงา และผลไม้พิษไว้แทะเล็ม พอประทังชีวิต

โดนทั้งของแข็ง และเสียงก่นด่า คนตัดต้นไม้ ทรุดตัวลงที่ข้างตอเน่าๆ

เขามองไปรอบข้าง สายตาที่เกือบจะปิดยังคงมองเห็น ทุ่งของหน่อใหม่พิษแตกตัวไปสุดสายตา
เอื้อมมือไป เอื้อมมือไป ถอนแล้ว ถอนอีก... บาดมือตัวเอง.. จนเป็นแผล พิษลุกลามจนเกือบถึงหัวใจ

คนตัดไม้ลมหายใจโรยริน ต้นไม้พิษกลับงอกงาม

บางกิ่งก้านก็แทงทะลุร่างที่เริ่มไม่ไหวติง อีกต่อไปแล้ว...

ต้นไม้พิษดื่มกินแม้กระทั่งเลือดของคนตัดไม้เองด้วยซ้ำ

คนตัดต้นไม้พยายามเปิดตามองรอบข้างเป็นครั้งสุดท้าย

ในที่สุดลมหายใจของเขาก็หมดลง.. เขาขาดใจตาย กลางพุ่มไม้พิษที่ขยายตัวเติบใหญ่กว่าเดิมหลายเท่า

เรื่องราวของคนตัดไม้ ถูกฝังไว้ด้วยพิธีฉลองความงอกงามของต้นไม้พิษ... ไปทั่วทั้งหมู่บ้าน..

....

ผ่านไปอีกหลายเดือน หรือหลายปี เมื่อผลไม้พิษออกฤิทธิ์เข่นฆ่าผู้คนในหมู่บ้าน ทำลายพลังแผ่นดิน และแหล่งเพาะปลูกชีวิต..

คนหลายคนเริ่มตามหาคนตัดไม้อีกครั้ง.... แต่ไม่มีใครรู้เลย เขาได้ตายไปนานแล้ว...

ตำนานของคนตัดไม้ เริ่มกลับมาขับขานอีกครั้ง....

ทุกหยดเลือดสร้างแรงใจให้กับคนทั้งหมู่บ้าน เพื่อถอนรากถอนโคนปีศาจต้นไม้พิษที่สูงใหญ่

ทุกคนสวมวิญญาณของคนตัดไม้ ลงมือทำลายล้างทุกอย่าง...

อีกหลายชีวิต ที่ต้องฟาดฟันกับกิ่งไม้พิษ อีกหลายกองเลือด ที่สาดให้ต้นไม้พิษดื่มกิน

แต่นั่นก็จะเป็นจุดสิ้นสุดของระบอบทักษิณ

เครดิต : vorapoap เสรีไทย

....

วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของชายตัดไม้รึเปล่านะ เค้าจะโดนต้นไม้พิษทำร้ายจนตายหรือเปล่านะ กบไม่รู้สิ รู้แต่ว่า บางทีคนเราไม่เคยเรียนรู้หรือรับรู้ถึงประโยชน์ในสิ่งที่มีเลย สุดท้ายเรากลับไปเพรียกหามันในวันที่ไม่มีแล้ว.....


23/11/2008
วันระดมพลพันธมิตร

วันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

เวทีอัปยศ แหกตาแห่งชาติ!


เหตุเกิดที่ประเทศสารขัณฑ์


จะว่าไปนี่อีกไม่กี่วันจะได้เห็นกัลยาณี ช็อกการีคนใหม่แล้วใช่ไหมคะเนี่ย กับเวที เฟคแห่งชาติ เวทีแห่งความอัปยศที่ไม่รู้ว่ามันจะจัดทำส้นตีนอะไร !

เวทีแห่งเกียรติยศที่เกิดขึ้นมานานแสนนาน ณ ประเทศสารขัณฑ์ เป็นเวทีที่น่าจะภาคภูมิใจ แต่ก็เพราะความอัปปรีย์จัญไรของช่างภาพกับคนทำมงกุฏ จับมือกันทำให้น้ำกามคละคลุ้งเปลื้อนเวทีจะโสโครก

มงกุฏปีนี้ คนทำคนเก่าไม่ได้ทำ แต่ให้นายหน้าหาอีตัวเป็นคนทำ ทำเอง ส่งเด็กเอง ชงเอง ก็จะได้คนชนะหน้าเห่ยเหมือนปีก่อนรึเปล่านะ

แต่ที่แน่ๆ เวทีแห่งนี้ได้นางงามแต่ละคนประวัติงามหน้าทั้งนั้น

อาจารย์สาวเอาตะปูยัดรองเท้าตัวเองแล้วออกมาโวยวาย จนสุดท้ายได้มงกุฏไปครองจนได้ แต่ความชั่วก็ปิดไม่มิด หลังจากส่งมอบตำแหน่ง เธอเอาหมด หนังแผ่น แสดงบทช็อกการี ถ่ายแบบแหกหอย จนงามหน้า ไม่เหลือเค้าอาจารย์เลย

หลีดมหาลัยชื่อดัง ตัวเท่าลูกหมา ผิวดำเขลอะ แถมเตี้ย 162 แต่ที่บ้านสนิทกับกรรมการ ก็ตะกายดาวจนเอามงกุฏมาครองจนได้

รอดูก็ละกันนะคะ ประเทศสารชัณฑ์จะได้กัลยาณีมาเทิดแผ่นดินเป็นนางงามที่น่าภาคภูมิใจ หรือจะเป็นช็อกการีอีก !

วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

อาทิตย์ 23 พย ปิดกรุงเทพ!


ยุทธศาสตร์การต่อสู้ครั้งสุดท้ายเพื่อเผด็จศึกรัฐบาลทรราชที่รับใช้นักโทษชายหนีคุก กำลังจะมาถึง

หลัง จากยื้อกันมานานในระหว่างแกนนำ ที่จะชุมนุมด้วยหลักอหิงสา กับอีกฝ่ายที่ต้องการเปิดเกมส์รุก จบสิ้นความขัดแย้งด้วยระเบิดจากอาวุธสงคราม ที่เชื่อว่ายิงมาจากเจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่รักษาแผ่นดิน ภายใต้การบังคับบัญชาของนายพลที่ไม่มีหน่วยรบควบคุม และได้รับการปล่อยปละละเลยจากผู้บังคับบัญชาระดับสูง ให้กระทำการฆ่าประชาชนอย่างเลือดเย็น ผลของการปฏิบัติการ จะเข้าทางของใครก็ไม่ทราบ แต่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกาศเดินหน้าทำสงครามครั้งสุดท้าย

แพ้ก็กลับบ้าน มหาจำลองประกาศ (อันที่จริงลุงจำลองคงไม่ได้กลับบ้านะคะ ถ้าลุงแพ้เขาขังลุงแน่ๆคะ ไม่ก็ยิงทิ้ง)

ขณะ นี้มีการติดต่อสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ เพื่อให้เข้าร่วมการต่อสู้ ผลจะเป็นประการใด รัฐวิสาหกิจไหนที่จะเข้าร่วม รัฐวิสาหกิจไหนจะขอนอนพัก อีกวันสองวันคงได้รู้กัน

สัญญานที่ดังกว่านกหวีด ดังขึ้นทั่วประเทศแล้ว นี่เป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้าย ใครสมัครใจจะมาสู้ก็มา สมัครใจจะอยู่อีกฝ่ายก็ไป สมัครใจจะอยู่เฉยๆก็อยู่ นานาจิตตัง

หน่วยทหารได้รับคำสั่งแล้ว ให้ควบคุมบัญชีอาวุธโดยเข้มงวด อาวุธของทางราชการจะนำออกมาก่อเหตุสังหารประชาชนไม่ได้ แต่ก็รู้กันอยู่ว่า อาวุธที่นำมาก่อเหตุ เป็นอาวุธสงครามที่ไม่ใช่ของกองทัพ การควบคุมบัญชีกำลังพลดูจะป้องกันได้ดีกว่า โดยเฉพาะทหารระดับประทวนตัวแสบ ที่รับงานคุมบ่อนคุมซ่อง ประพฤติตนเป็นนักเลง เพียงเรียกเตรียมพร้อมในที่ตั้ง ห้ามออกนอกเขตรับผิดชอบ ก็ป้องกันได้มากโข ถ้าคืนนี้ หน่วยทหารยังปล่อยเศษทหารออกมารับใช้เศษแดงอีก หน่วยนั้นก็คือทรราช และผู้บังคับบัญชาสูงสุดของทหาร คงแก้ตัวเรื่อง 50 ล้านไม่ได้

วันอาทิตย์ปิดกรุงเทพ

วันจันทร์ปิดสภา และปิดดอนเมือง ที่ทำการรัฐบาลชั่วคราว

วันอังคารปิดประเทศ หยุดกิจกรรมทุกรูปแบบ

แพ้ชนะ อีกไม่กี่วันได้รู้

== พรรณชมพู==
เสรีไทย

วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

เรากำลังสู้เพื่ออะไร !


ข่าวสะเทือนใจที่พี่น้องพันะมิตรของกบเสียชีวิต 1 และบาดเจ็บอีกเกือบ 20 คน เป็นผลมาจากการจุดระเบิด M79 แล้วยิงใส่เข้ามากลางเวที กลางเต้นท์เลยค่ะ ส่งผลให้พี่น้องพันธมิตรเสียชีวิต 1 คนค่ะ ยิ่งได้เห็นภาพแล้วยิ่งสลดใจสะเทือนใจ

น้ำตาไหลค่ะ น้ำตาไหลด้วยความสะเทือนใจ และเคารพในความกล้าหาญของคนที่เสียชีวิต ในอดีต ชาวไทยเสียเลือดเนื้อเพื่อปกป้องบ้านเมืองจากอริราชศัตรูต่างชาติ แต่ใน พศ 2551 ชาวไทยต้องสูญเสียเลือดเนื้อให้กับการต่อสู้กับสงครามแก่งแย่งชิงอำนาจกันระหว่างทุนนิยมสามานย์กับผู้ปกป้องสถาบัน

เราปกป้องสถาบันจนตัวตาย จนเลือดนองแผ่นดิน แล้วทหารล่ะ ทหารหายไปไหน ทหาร ที่ได้ชื่อว่า มีงบลับ มีงบประมาณเพื่อป้องกันประเทศชาติ ภาษีที่พี่น้องประชาชนที่ไปตายในทำเนียบเค้าจ่ายมาเป็นเสื้อผ้า อาวุธ ตลอดจนเงินเดือนสูงๆให้นายทหารใหญ่ไปตีกอลฺฟ สุขสบาย วันนี้ทหารหายไปไหน

ทหารจะปล่อยให้เราต่อสู้กับความชั่วร้ายเพียงลำพังหรือ
ทหารจะให้พันธมิตรปกปักรักษาราชบัลลังก์เพียงลำพังหรือ
ทหารจะปล่อยให้กระบวนการจาบจ้วงยังคงอยู่กระนั้นหรือ

กบเห็นทหารออกมาขู่ๆ แล้วก็เงียบ

การกระืทำครั้งนี้เป็นฝีมือของทหารประจำการ ที่ออกมาขู่จะฆ่าจะยิงทุกวัน นายทหารอย่าง ผบทบ.ก็ยังปล่อยกระนั้นหรือ

จัดการหน่อยสิทหาร

อย่าให้ประชาชนเริ่มคลางแคลงว่า ต่อสู้เพื่ออะไร ?

วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

สื่อมวลชนกับนางงาม


ถึงฤดูกาลประกวดนางงามระกับชาติทีไร น้องๆในบอร์ดของกบจะต้องตื่นเต้นทุกที เริ่มตั้งแต่งานแถลงข่าว งานคัดตัว งานเปิดตัวผู้เข้ารอบสุดท้ายที่จะได้ขึ้นเวที งานเปิดตัวมงกุฏ งานรอบสื่อ งานวันตัดสิน งานเลี้ยงฉลองตำแหน่ง ทุกๆงานมีอันจะต้องประสานงานกับต้นสังกัดเพื่อขอเข้าไปทำข่าวทั้งนั้น

สื่อมวลชน บัตรสื่อมวลชนติดหน้าอก เพื่อป้องกันการเข้าไปทำมิดีมิร้ายในงานต่างๆเกี่ยวกับนางงาม เวบบอร์ดเวบไซต์โดนสื่อมวลชน นักข่าว จากหนังสือ มองอย่างเหยียดหยามราวกับเป็นคนอีกวรรณะหนึ่ง ซึ่งถ้าจะเอาเข้าจริงๆ เวลาสื่อเข้าไปทำงานในฐานะสื่อสายนางงามเนี่ย

สื่อหนังสือ มันเข้าไปเก็บภาพแล้วก็แดกฟรี แล้วก็เอาข่าวมาลงให้สามบรรทัด ภาพมาลงภาพเดียว สื่อเวบไซต์ เอาภาพมาลงแบบเยอะมากที่สุดเท่าที่จะเอามาลงได้ ไปทำข่าวมาเช้าบ่ายลง ทำข่าวบ่าย เย็นลง ประกวดคืนนั้น ลงให้ดูมันก่อนสาง ความทุ่มเทคนละเรื่อง แต่ส่วนนึงเข้าใจว่า เวบไซต์บางแห่งเค้าชอบช้อนนมช้อนจิ๋มนางงามก็ได้ ทำให้ต้นสังกัดไม่ปลื้ม แต่ในความไำม่ปลื้มก็ทำให้เวทีตัวเองดังได้ไม่ใช่หรือ

มาดูสื่อหนังสือ ที่ถือตัวเองว่า วรรณะสูงดีกว่าไหมคะ เค้ามีการหาประโยชน์จากนางงามกันยังไง เอาเป็นว่า มีพี่สื่อเวบไซต์สองคน ที่เค้าถ่ายภาพลงเวบไซต์ แต่ก็ยังไม่เอาชื่อเวบไซต์เข้าไปขอทำข่าว แต่ต้องพ่วงเอาหัวหนังสือเข้าไปทำข่าว แต่เบื้องหลังเอาเข้าจริงๆ ยิ่งกว่าสื่อ เพราะไม่ได้ถ่ายภาพอย่างเดียว แต่ยังแอบเอาเด็กตัวเองเข้าไปยัดไส้ ฝากฝังกับกองประกวด เพื่อที่จะดันๆๆให้เด็กตัวเองได้ตำแหน่ง พอเด็กตัวเองได้ตำแหน่งก็พาไปนัดๆๆๆกินข้าวกับผู้ใหญ่

กบขอเรียกคนเหล่านี้ว่าเหลือบในวงการนะคะ ลำพังเด็กตัวเองสวยระดับนึง นัดทานข้าวกับผู้ใกญ่อาจจะยาก แต่ถ้าพ่วงสักตำแหน่ง รองอันดับ1 จากการประกวดโน่นนี่นั่น ก็อาจจะทำให้ผู้ใหญ่เค้าหันหน้ามาสนใจ

ไม่ต้องแปลกใจเลยว่า เทศกาลประกวดนางงามระดับชาติเวทีใหญ่ทีไร สภาบันสอนบุคลิกภาพแห่งหนึ่ง ใจกลางเมือง จะคราคร่ำไปด้วยพี่เลี้ยงนางงามเดินสาย ช่างภาพที่แอบส่งนางงามเข้าไปกวด ที่หมั่นขึ้นไปเรียนบุคลิกภาพจนหัวกะไดไม่แห้ง อ้าวไม่ได้ไปเรียนนี่หว่า แต่ไหงเอารูปนางงามตัวเองไปฝากฝัง วงการนางงามไทยมันไปได้ไม่ไกลหรอก เพราะเหลือบพวกนี้แหละ......

วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

สร้างความต่างใน webboard !


กบใช้ชีวิตวนเวียนในเวบบอร์ดต่างๆมาหลายปีเหมือนกันแล้วนะคะ ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนรักการป่วนบอร์ดชาวบ้านมากๆค่ะ แต่วีรกรรมเก่าๆที่เคยทำมาไว้จะไม่พูดละกันค่ะ เพราะพูดไปเค้าจะนึกว่าเราแก่แล้ว เพราะคนที่ชอบพูดเรื่องเก่าๆเค้ามีแต่คนแก่ๆถึงจะชอบพูดกันจริงไหมคะ

แต่คำพูดนึง เวลาที่เราไปป่วนบอร์ดเค้าชอบพูดกันคือ ทำไมมึงไม่ไปเปิดบอร์ดของมึงวะ นี่แหละค่ะ ก้องหูเลย จนวันนี้มีบอร์ดของตัวเอง ก็เลยเจอพฤติกรรมป่วนบอร์ดในแบบต่างๆ แต่ในสายตากบแล้ว กบค่อนข้างจะปล่อยๆกับพวกป่วนบอร์ดนะคะ เล็กๆน้อยๆ แบบที่กบเคยทำ เราไม่ว่ากัน

แต่ป่วนบอร์ดแบบไหนล่ะ มันเกิดจากอะไรล่ะ และมันจะเอายังไงต่อไปดี

คนป่วนบอร์ดที่ป่วนเข้ามาแบบขาประจำเนี่ย กบจะคิดแบบเข้าข้างตัวเอง มองโลกในแง่ดีสุดๆคือ

เค้ารักบอร์ดของกบ ค่ะ

อ้าว จริงไหมล่ะคะ !

ถ้าไม่รักกัน มันจะเอาเรี่ยวเอาแรงที่ไหนมาป่วนได้แบบทุกวัน

แต่คนบางคนป่วนเพราะมีความสุขจริงๆนะคะ แบบประเภทว่า ชอบคิดต่าง ชอบมองต่างมุม แต่บางทีตะพึดตะพือค่ะ เช่น คนส่วนมากชอบ ข้าต้องไม่ชอบ คนส่วนมากไม่ชอบ ข้าต้องชอบ เอาเป็นว่า คนพูดนี้เหมือนจะมีจุดยืนนะคะ แต่เอาเข้าจริงๆ อคติ แต่เป็นอคติกับคนหมู่มาก สมมุติว่าคนในบอร์ดบอกว่าขี้มันเหม็น อีคนพวกนี้มันยอมออกมาบอกว่า ขี้หอม หรือมันยอมกินขี้โชว์มันยังทำเลย ขอสร้างความต่างอย่างเดียวพอ

ระยะหลังๆ การแสดงออกของคนเหล่านี้ โดนคนหมู่มากรุมแอนตี้เยอะมาก คนพวกนี้ไม่ได้ต้องการอะไรมากเลย เค้าต้องการแค่ให้มีคนเห็นด้วยกับเค้าสักสามสี่คนก็พอ เค้าก็จะมีความสุขในแง่คิดต่างมุม กบไม่เคยเพลิกเฉยกับความคิดของคนพวกนี้นะคะ อ่านค่ะ แต่อ่านแล้วเอามาสังเคราะห์อีกรอบนึง เข้าท่าก้คิดตาม ไม่เข้าท่าก็เฉยๆ อ่านขำขำ

เราต้องปรับใจยอมรับและให้โอกาสคนพวกนี้พอสมควรนะคะ เพราะถ้ามองในแง่ดี ก็ดีกว่าให้เค้าไปทำแบบนี้ที่อื่น เพราะไม่รู้ว่าที่อื่นเค้าจะยอมแบบเราไหม แต่ที่รับไม่ได้คือ คนพวกนี้ เริ่มใช้วิธีการใต้ดิน แอบด่าใน msn และบอกว่า ใจแคบ บอร์ดใจแคบ ทั้งๆที่มันเลือกทางเดินที่เล็กและแคบเอง ไปคิดต่างจากคนหมู่มาก และพยายามจะหว่านล้อมให้คนหมู่มากคิดเหมือนตัวเอง โดยที่วาทศิลป์ก็ไม่มี เฮ้อออ.....

วันหลังจะเล่าพฤติกรรมขำขำของคนพวกนี้ให้ฟังอีก

วันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

HIV รักษาได้แล้ว !


กบได้อ่านข่าวนี้ในกระทู้ของคุณ สมาชิกในบอร์ด T-Pageant ที่เอาข่าวนี้มาบอก ซึ่งเท่าที่อ่านดู กบคิดว่ามันก็เหมือนแสงสว่างสำหรับคนที่ติดเืชื้อ HIV นะคะ สำหรับหลักการของการรักษาผู้ติดเชื้อ HIV ก็มีดังนี้

Doctors say marrow transplant may have cured AIDS By PATRICK McGROARTY, Associated Press Writer
แพทย์กล่าวว่า การปลูกถ่ายไขกระดูกอาจจะรักษาเอดส์หายขาดได้
ข่าวโดยแพทริก แม็คกรอธที่ นักข่าวสำนักข่าวเอพี

97% of users found this article helpful.
97% ของผู้ใช้พบว่า บทความนี้มีประโยชน์

German hematologists Eckhard Thiel, left, and Gero Huetter of Berlin's Charite Medical University attend a news conference about a successful treatment of a HIV infected patient in Berlin, on Wednesday, Nov. 12, 2008. (AP Photo/Michael Sohn)
นักโลหิตวิทยาชาวเยอรมันสองคน นายแอคฮาร์ดฯ (คนซ้าย) และนายเจอโรฯ ของมหาวิทยาลัยแพทย์เบอร์ลินชาริต์ (อาจจะแปลว่ามหาวิทยาลัยไม่ค้ากำไร) แถลงข่าวเกี่ยวกับการรักษาคนไข้เอดส์ในเบอร์ลิน ที่ประสบความสำเร็จในการรักษา โดยแถลงข่าววันพุธที่ 12 พ.ย.2008 (ภาพเอพี ไมเคล ซอห์น)
BERLIN - An American man who suffered from AIDS appears to have been cured of the disease 20 months after receiving a targeted bone marrow transplant normally used to fight leukemia, his doctors said.
เบอร์ลิน ชายชาวอเมริกันซึ่งป่วยด้วยโรคเอดส์ ดูเหมือนว่าจะหายขาดจากโรคนี้ได้ 20 เดือนหลังได้รับการปลูกถ่ายไขกระดูกด้วยวิธีที่เรียกว่า targeted bone marrow transplant ซึ่งปรกติใช้รักษามะเร็งลูคีเมีย แพทย์ของคนไข้กล่าว

While researchers — and the doctors themselves — caution that the case might be no more than a fluke, others say it may inspire a greater interest in gene therapy to fight the disease that claims 2 million lives each year. The virus has infected 33 million people worldwide.
แม้นักวิจัย และแพทย์ทั้งคู่กล่าวเตือนว่ากรณีนี้อาจเป็นกรณีฟลุ๊คหายก็ได้ แต่คนอื่นๆกล่าวว่ากรณีดังกล่าวอาจจะเป็นกำลังใจให้มีความสนใจศึกษาการรักษา ด้วยสารพันธุกรรม(ยีน) เพื่อรักษาโรคที่คร่าชีวิตผู้คน 2 ล้านชีวิตต่อปี ไวรัสเอดส์ติดเชื้ออยู่ในตัวผู้ป่วยว่า 33 ล้านคนทั่วโลก

Dr. Gero Huetter said Wedneday his 42-year-old patient, an American living in Berlin who was not identified, had been infected with the AIDS virus for more than a decade. But 20 months after undergoing a transplant of genetically selected bone marrow, he no longer shows signs of carrying the virus.
หมอเจอโรฯ กล่าวในวันพุธนี้ ว่า คนไข้อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นชาวอเมริกันที่อาศัยในเบอร์ลินที่ไม่เปิดเผยชื่อ ได้รับเชื้อไวรัสเอดส์ เป็นเวลากว่าทศวรรต แต่หลังจากปลูกถ่ายไขกระดูกที่ได้ผ่านการคัดเลือกทางพันธุกรรมได้ 20 เดือน เขาก็ไม่มีการแสดงอาการว่ามีไวรัสอยู่ในตัวเขา

"We waited every day for a bad reading," Huetter said.
It has not come. Researchers at Berlin's Charite hospital and medical school say tests on his bone marrow, blood and other organ tissues have all been clean.
เรารอทุกวันสำหรับข่าวร้าย หมอเจอโรกล่าว แต่มันก็ไม่มีข่าวร้าย นักวิจัยที่โรงพยาบาลเบอร์ลิน ชาริต์และโรงเรียนแพทย์กล่าวว่าการตรวจสอบทั้งไขกระดูก เลือดและเนื้อเยื่อของอวัยวะอื่นๆ ต่างไม่พบเชื้อ

However, Dr. Andrew Badley, director of the HIV and immunology research lab at the Mayo Clinic in Rochester, Minn., said those tests have probably not been extensive enough.
อย่างไรก็ตาม แพทย์แอนดรูว์ แบดเล่ย์ ผู้อำนวยการของห้องวิจัยเอดส์และวิชาอิมมูโนที่เมโยคลินิกในโรเชสเตอร์ มิเนโซต้า กล่าวว่า การตรวจสอบทางห้องปฏิบัติการดังกล่าวอาจจะไม่ละเอียดหรือครบถ้วนพอ

"A lot more scrutiny from a lot of different biological samples would be required to say it's not present," Badley said.
ต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกมาก จากตัวอย่างอีกมากๆตัวอย่างเพื่อจะยืนยันว่า เชื้อไวรัสนั้นไม่มีอยู่จริงๆ หมอแบดเล่ย์กล่าว

This isn't the first time marrow transplants have been attempted for treating AIDS or HIV infection. In 1999, an article in the journal Medical Hypotheses reviewed the results of 32 attempts reported between 1982 and 1996. In two cases, HIV was apparently eradicated, the review reported.
Huetter's patient was under treatment at Charite for both AIDS and leukemia, which developed unrelated to HIV.
นี่ ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้มีความพยายามทำการปลูกถ่ายไขกระดูกเพื่อรักษาเอดส์ หรือการติดเชื้อเอชไอวี ในปี 1999 มีบทความในวารสารแพทย์ที่ให้สมมุติฐานโดยทบทวนความพยายามเรื่องแบบนี้ 32 ครั้งที่รายงานไว้ในระหว่างปี 1982-1996 มีสองรายที่ไว้รัสเอชไอวีดูเหมือนว่าจะถูกกำจัดหมด การทบทวนรายงานครั้งนั้นราย งานไว้ด้งกล่าว
คนไข้ของหมอเจโรได้รับการรักษาที่ชาริตสำหรับโรคเอชไอวีและลูคีเมียซึ่งเกิดขึ้นโดยไม่เกี่ยวกับเอชไอวี

As Huetter — who is a hematologist, not an HIV specialist — prepared to treat the patient's leukemia with a bone marrow transplant, he recalled that some people carry a genetic mutation that seems to make them resistant to HIV infection. If the mutation, called Delta 32, is inherited from both parents, it prevents HIV from attaching itself to cells by blocking CCR5, a receptor that acts as a kind of gateway.ในขณะที่หมอเจอโรซึ่งเป็นนักโลหิตวิทยา ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญรักษาเอชไอวี เตรียมที่จะรักษาโรคลูคีเมียของคนไข้ด้วยการปลูกถ่ายไขกระดูก เขานึกได้ว่ามีคนบางคนที่มีการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมแบบเกิดขึ้นเองซึ่งทำให้ คนพวกนี้ทนต่อการติดเชื้อเอชไอวี ถ้าการแปลงเปลี่ยนพันธุ์แบบเกิดขึ้นเองที่เรียกว่า เดลต้า 32 ถูกถ่ายทอดทางพันธุกรรมจากพ่อแม่เขา การเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมที่เกิดขึ้นนั้น จะป้องกันเชื้อเอชไอวีไม่ให้ติดเข้ากับเซลของคนนั้นโดยการปิดกั้น ซีซีอาร์ 5 ซึ่งเป็นตัวรับไว้รัสที่ทำหน้าที่เป็นเป็นเหมือนประตูทางเข้า

"I read it in 1996, coincidentally," Huetter told reporters at the medical school. "I remembered it and thought it might work."
“ผมอ่านบทความนี้ในปี 1966 โดยบังเอิญ” หมอเจอโรพูดกับนักข่าวที่โรงเรียนแพทย์ “ผมจำได้และคิดว่ามันอาจได้ผล”

Roughly one in 1,000 Europeans and Americans have inherited the mutation from both parents, and Huetter set out to find one such person among donors that matched the patient's marrow type. Out of a pool of 80 suitable donors, the 61st person tested carried the proper mutation.
กะคร่าวๆ คนยุโรปและสหรัฐ 1 ใน 1000 จะได้รับการถ่ายทอดการแปลงเปลี่ยนพันธุกรรมนี้จากทั้งพ่อและแม่ และหมอเจอโรเริ่มหาคนเหล่านี้ในกลุ่มผู้ที่บริจา***วะซึ่งเข้าได้กับไข กระดูกคนไข้ ในคนบริจา***วะ 80 คนที่เข้าได้กับไขกระดูกคนไข้ คนที่ 61 ตรวจพบว่ามีพันธุกรรมแบบแปลงเปลี่ยนพันธุ์ที่ต้องการ

Before the transplant, the patient endured powerful drugs and radiation to kill off his own infected bone marrow cells and disable his immune system — a treatment fatal to between 20 and 30 percent of recipients.
ก่อนการ ปลูกถ่ายไขกระดูก คนไข้ต้องทนต่อยาที่รุนแรงและการฉายแสงที่ฆ่าเซลไขกระดูกที่ติดเชื้อเอชไอวี ของเขาและทำให้ระบบคุ้มกันภัยของเขาไม่ทำงาน การรักษาแบบนี้ มีอัตราตายได้ระหว่าง 20-30 % ของผู้ที่รับการปลูกถ่ายไขกระดูก

He was also taken off the potent drugs used to treat his AIDS. Huetter's team feared that the drugs might interfere with the new marrow cells' survival. They risked lowering his defenses in the hopes that the new, mutated cells would reject the virus on their own.
คนไข้ยังต้องเอายา อย่างแรงที่ใช้รักษาเอดส์ออกด้วย ทีมหมอเจอโรกลัวว่ายารักษาเอดส์อาจจะรบกวนต่อการโตของเซลไขกระดูกใหม่ที่ ปลูกถ่ายเข้าไป ทีมรักษาต้องเสี่ยงโดยการลดความสามารถในการป้องกันตัวเองของคนไข้ต่อเชื้อ โรคเพื่อหวังว่า เซลใหม่ที่แปลงเปลี่ยนพันธุกรรมที่ปลูกถ่ายเข้าไปใหม่นั้นจะกำจัดไวรัสด้วย ตัวมันเอง

Anthony Fauci, director of the National Institute of Allergy and Infections Diseases in the U.S., said the procedure was too costly and too dangerous to employ as a firstline cure. But he said it could inspire researchers to pursue gene therapy as a means to block or suppress HIV.
แอนโทนี่ เฟาซี่ ผู้อำนวยการของสถาบันโรคติดเชื้อและภูมิแพ้แห่งชาติของสหรัฐ กล่าวว่า กรรมวิธีนี้แพงเกินเหตุและอันตรายเกินกว่าที่จะนำไปใช้เป็นวิธีแรกในการ เสี่ยงเพื่อรักษาเอดส์ให้หายขาด แต่เขากล่าวว่าผลการรักษาจะทำให้นักวิจัยสนใจที่จะใช้การรักษาด้วยพันธุกรรม เป็นวิธีที่จะป้องกันหรือควบคุมโรคเอชไอวี

"It helps prove the concept that if somehow you can block the expression of CCR5, maybe by gene therapy, you might be able to inhibit the ability of the virus to replicate," Fauci said.
“มันเป็นการพิสูจน์ความเชื่อที่ว่า ถ้าคุณสามารถปิดกั้นการแสดงออกของ ซีซีอาร์ 5 ไม่ให้มีเกิดขึ้นได้ ,อาจจะโดยวิธีรักษาด้วยวิธีทางพันธุกรรม, คุณก็อาจจะปิดกั้นความสามารถของไวรัสที่จะแบ่งตัวเพิ่มจำนวน” เฟาซี่ กล่าว

David Roth, a professor of epidemiology and international public health at the London School of Hygiene and Tropical Medicine, said gene therapy as cheap and effective as current drug treatments is in very early stages of developm ent.
"That's a long way down the line because there may be other negative things that go with that mutation that we don't know about."
เดวิดรอท ศาสตราจารย์ ทางด้านระบาดวิทยายและการสาธารณสุขระหว่างชาติของมหาวิทยาลัยอายุรศาสตร์เขต ร้อนและการสาธารณสุขแห่งกรุงลอนดอน กล่าวว่า การรักษาด้วยพันธุกรรมที่ได้ผลดีเท่าและราคาถูกเท่ากันกับการรักษาด้วยยาที่ ใช้กันในขณะนี้ ยังถือว่าเป็นเพียงขั้นต้นมากๆของการพัฒนาวิธีรักษานี้ “ มันยังอีกนานระหว่างการรักษาด้วยวิธีนี้ เพราะอาจจะมีสิ่งไม่ดีที่อาจติดตามมากับวิธีรักษาด้วยพันธุกรรมที่แปล เปลี่ยนนี้ ซึ่งเรายังไม่รู้”

Even for the patient in Berlin, the lack of a clear understanding of exactly why his AIDS has disappeared means his future is far from certain.
"The virus is wily," Huetter said. "There could always be a resurgence."
(This version CORRECTS spelling of doctor's name to Huetter throughout.)
แม้ กระทั่งกรณีของคนไข้ในเบอร์ลินนี้ การไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้แน่ชัดว่า ทำไมไวรัสเอดส์ของเขาจึงหายไปหมายความว่า อนาคตก็ยังเป็นเรื่องไม่แน่นอน “ ตัวไวรัสเอดส์นั้นเจ้าเล่ห์” หมอเจอโรกล่าว “ มันอาจเป็นได้ว่ามันจะกลับเป็นอีก”

สมัยหนึ่ง การปลูกฝีให้กับตัวเองของหมอเอ็ดเวิร์ด เจนเน่อร์ โดยการเอาเชื้อไวร้สไปป้ายให้กับตัวเอง เขาก็ไม่รู้อานาคต และไม่รู้ว่าทำไมจึงป้องกันโรคได้ แต่เขาก็ทำ
คนแรกที่ใข้เพนนิซิลินก็ไม่รู้อนาคตและไม่รู้ด้วยว่าทำไมเพนนิซิลินจึงรักษาโรคได้ แต่เขาก็ทำ
คนที่ไปดวงจันทร์คนแรก ก็ไม่รู้ว่าจะได้กลับหรือไม่ หรือกลับยังไง แต่เขาก็ไป
คนพวกนี้เขาจึงนับถือว่าเป็นผู้กล้าหาญ



-----------------------


ท้ายที่สุด มันจะรักษาให้หายขาดได้หรือไม่ แม้จะต้องใช้เงินใช้ทองมากมายขนาดไหนยังไง ก็เป็นเรื่องน่ายินดี แต่ก้ใช่ว่านับแต่นี้เราจะต้องใช้ชีวิตอย่างประมาทนะคะ การเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงน่าจะดีที่สุดนะคะ เพราะต่อให้รักษาได้จริง ก็คงไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ

วันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

สงสารในหลวง.......







กบกราบขออนุญาตใช้คำศัพท์แบบสามัญพูดแบบซื่อๆนี่แหละว่า สงสารในหลวง เำพราะบรรยากาศที่ได้รับชมงานถวายพระเพลิงพระศพของสมเด็จพระพี่นางเมื่อคืนนี้เป็นอะไรที่ดูแล้วมันจุกอยู่ที่คอหอย ปล่อยโฮออกมาได้อย่างลืมตัว

คนไทยเราผูกพันธ์กับสถาบันกษัตริย์เหลือเกิน เรายอมเรียกพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ว่า เจ้านาย อย่างเต็มใจ เมื่อวานนี้เป็นงานศพของ เจ้่านาย ของประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ

บรรยากาศในกทม เท่าที่กบได้ออกไปสัมผัสมา กบพบว่า ประชาชนชาวไทยที่ออกมาเดินข้างนอกใส่ชุดดำไว้ทุกข์กันเกือบหมดประมาณ 99% หาน้อยมากที่จะเจอคนใส่ชุดสีฉูดฉาด เว้นเสียแต่ชาวต่างชาติหรือเด็กที่เด็กมากๆ เราก็ไม่ว่ากัน ในส่วนนี้นับว่าเรายังสามารถชื่นชมได้ว่าสถาบันกษัตริย์ของเราในประเทศไทยยังเข้มแข็ง

งานถวายพระเพลิง งานออกพระเมรุเมื่อวานนี้ หากใครได้ชมตั้งแต่ต้นจนจบจะพบว่า งานพระราชพิธีแบบนี้ คือความภาคภูมิใจในความเป็นชาติภาคภูมิใจในประเพณีวัฒนธรรมของเราอย่างมาก งานพระศพแบบโบราณอย่างนี้ รับรองได้ว่าไม่มีที่ไหนในโลกอีกแล้ว เป็นการส่งเจ้านายสู้สวรรคาลัยอย่างแท้จริง ทุกอย่างมีนัยสำคัญหมด ท้่ายที่สุดนี้ กบเลยขอเอาภาพสวยๆจากริ้วขบวนพระศพมาให้ดูกันค่ะ

วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

THAILAND สู้สู้

เมื่อวานนี้ช่วงเวลาประมาณหกโมงเย็น กบมีโอกาสได้ส่งน้องมิ้ม อัมราภัสร์ ไปเข้าร่วมประกวดนางงามโลกที่ประเทศแอฟริกาใต้ !


แหะๆๆ

กบได้ส่งเธอทางโทรศัพท์ค่ืะ

น้องในบอร์ด T-Pageant คนนึงเป็นธุระต่อสายให้น้องมิ้มโทรมาคุยกับกบ และกบเองก็อยากจะคุยกับน้องมิ้มด้วย ในฐานะที่ว่ากบรักและเอ็นดูน้องมิ้มเหมือนน้องสาวจริงๆ อิอิอิ


น้องมิ้มเสียงใสชัดแจ๋ว บอกว่า ได้คุยกับพี่กบเสียที กบเองก็ดีใจมากๆๆที่ได้คุยกับน้องมิ้ม

โดยรวมๆ น้ำเสียงน้องมิ้มค่อนข้างจะมั่นใจเอามากๆ กบเองก็บอกน้องมิ้มไปว่า เดินทางคนเดียวไม่ต้องกลัวอะไรนะ เพราะยังไงพี่ๆน้องๆในบอร์ด T-pageant พร้อมเอากำลังใจให้เต็มเปี่ยมแน่นอน ไม่ต้องไปกลัวนางงามประเทศอื่นนะ เพราะน้องมิ้มของเราสวยสู้เค้าได้แน่นอน

น้องมิ้มจะเข้าพักที่โรงแรม Sandton Sun ที่แอฟริกาใต้ตลอดการเก็บตัว 1 เดือน นึกไปนึกมาก็น่าอิจฉานะคะ เพราะได้มีประสบการณ์ที่ประเทศที่สวยขนาดนี้ตั้ง 1 เดือน

แต่ 1 เดือน ของน้องมิ้ม ในฐานะเด็กสาวที่เข้าวงการมาเป็นดาราไปแล้ว ก็ต้องถือว่าเธอเสียสละพอสมควร เพราะทั้งงานละคร ทั้งงานโชว์ตัว เธอต้องปัดไปหมดเลย

ยังไงก็ตาม Miss World ปีนี้ น้องมิ้มพร้อมมากๆ กองเชียณ์ไทยเราก็พร้อมมาก ทีมงานที่เตรียมของให้น้องมิ้มก็พร้อมมากๆเหมือนกัน

THAILAND สู้ !

วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ชีวิตสุขสันต์ของกบ

ช่วงนี้เพื่อนๆที่ตามอ่านบล็อกของกบอาจจะผิดหวังเล็กน้อยนะคะที่ไม่ได้อ่านข่าวสารสาระที่คอยตามจิกตามด่านางงามเหมือนเก่าๆ ใจจริงๆกบขอยืนยันว่ายังมีเรื่องราวข้อมูลมากมายที่อยากจะเขียนถึงมากมาย แต่เนื่องด้วยห้วงเวลา 3-4 วันจากนี้ไป กบจะละเว้นการด่าทอ หรือการจิกกัดนางงาม เพื่อเป็นการทำความดีไว้อาลัยสมเด็จพระพี่นางของปวงชนชาวไทยนี่เอง

ช่วงนี้เห็นภาพน้องหมาในอิริยาบทต่างๆแล้วกบแอบฮานะคะ หมามันเป็นสัตว์ที่ตลกดีเหมือนกันนะคะ ที่บ้านกบมีหมาเยอะค่ะ แต่ตัวที่ตลกจะมีปั๊กตัวนึง มันเป็นปั๊กในฝูงปอมค่ะ

ภาพประกอบที่นำมาขึ้นในบล็อกนี่ไม่ใช่หมากบนะคะ แต่กบ search เจอแล้วเห็นมันน่ารักดี

งั้นมาเข้าเรื่องเจ้าปั๊กของกบต่อดีกว่า หมาปั๊กโดยทั่วไปมันต่างจากหมาปอมแน่นอน คนละเรื่องกันเลย

แต่ทำไงล่ะ พอมันมาอยู่ด้วยกัน เจ้าปั๊กมันชอบคิดว่ามันเป็นปอม

เวลากบเดินกลับบ้าน ฝูงหมาจะวิ่งแข่งกันมาหา โดยหมาเป็นฝูงมีเจ้าปั๊กนี่แหละวิ่งรวมฝูงมาด้วย แต่ที่ตลกคือ ปั๊กมันจะอ้วนๆตันๆ ขาเล็ก ศูนย์ไม่ดี นั่นเลยค่ะใช่เลย เจ้าปั๊กเป็นหมาทีชอบวิ่งแล้วหกล้ม สมกับคำที่เค้าบอกว่าสีี่ขายังรู้พลาดจริงๆ

เวลากบนั่งบนเก้าอี้ หมาบางตัวมันอยากประจบมันก็จะกระโดดขึ้นมานั่งตัก ไอ้เ้จาปั๊กก็อยากทำบ้าง ที่ฮามากๆคือ มันกระโดดไม่ค่อยสำเร็จหรอกค่ะ กระโดดขึ้นมาแล้วก็ตกเก้าอี้ทุกที เจ็บตัวไปตามระเบียบ

วีรกรรมน้องหมา เวลานึกถึง หรือเราไปมองหน้ามัน แล้วเราอารมณ์ดีนะคะ

มีคนถามว่าชีวิตสุขสันต์ของเราคืออะไร การที่เราได้ทำอะไร

กบเองก็ไม่ค่อยรู้ตัวเท่าไหร่ รู้แต่ว่า กบมีความสุขเวลาได้เข้ามาในบอร์ด T-pageant ของกบ เวลาเจอคนป่วนๆก็เครียดๆบ้าง แต่บางทีก็มองโลกในแง่ดีนะ ถ้าเค้าไม่รักเราเค้าจะมาป่วนทำไม นี่คิดในแง่ดีสุดๆแล้วนะคะเนี่ย

พรุ่งนี้แล้วนะคะ จะเป็นวันที่เราจะมาร่วมกันส่งเสด็จสมเด็จพระพี่นางสู่สวรรรคาลัยแล้ว กบก็จะขอให้พระองค์ท่านเสด็จสู่สวรรคาลัย และท่านจะอยู่ในใจชาวไทยทุกคนค่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ภาพสะท้อนอันน่ารังเกียจ


สองสามวันมานี้ กบมีโอกาสได้ทบทวนพฤติกรรมเก่าๆของตัวเองด้วยการไปหากระทุ้เก่าๆมาดูแล้วก็พบว่า เรานี่เป็นคนปากกบ้าจังเลยนะ แบบว่าท้าชนดะมันทุกรูปแบบ ใครจะมาด่าเรา สมมุติด่าเรา 10 เราต้องตอกกลับ 20 ด่าเรา 100 ต้องตอกกลับอย่างน้อย 200 เอาให้แรง เอาให้สะใจ แต่สุดท้ายกบได้อะไรวะ นอกจากอะดรีนาลันพุ่งพล่าน

สามสี่วันก่อน หลังจากประกวด Miss Earth จบ มีคนส่ง link คำเย้ยหยันของกะเทยขาประจำคนนึงมาให้กบอ่าน จริงๆกบเคยเข้าไปอ่านมาก่อนแล้วล่ะ ทุกอย่างตามคาด เสียดสี เย้ยหยัน อ่านแล้วสมเพชในพฤติกรรามที่น่าขยะแขยง แต่กบมานั่งพิจารณาแล้ว มันก็ไม่ได้ดีไปกว่าพฤติกรรมของเราเลย

กบมองดูพฤติกรรมของกะเทยแก่คนนั้นที่ด่ากบ แล้วกบก็เหมือนเห็นภาพสะท้อนตัวตนในด้านน่ารังเกียจของตัวเองว่า เออ จริงนะ เราเองก็ไม่ได้มีสภาพต่างไปจากยายนั่นเลย ถ้าเราตอบโต้ ยานนั่นก็จะยังไม่หยุด กบเลยคิดว่ากบอยากจะหยุดตอบโต้ เพราะกบเองก็หาประโยชน์อะไรไม่ได้เลยจากการที่กบจะไปตอบโต้หรือเอาตัวเองไปแลก

ถามว่า การที่จะเอาตัวเองไปแลก มันก็ไม่ได้ต่างอะไรกับการยกบอร์ดของเราทั้งบอร์ดไปแลก เพราะเวลาคนพวกนั้นด่า แน่นอน กบโดนก่อน จากนั้นจะตามมาด้วยบอร์ด ยังไงกบก็สลัดตัวเองออกจากภาพพจน์ของบอร์ดไม่ได้แน่นอน กบก็เลยคิดว่า เออ เราหยุดละกัน มันจะได้จบ

เชื่อไหม เดือนสองเดือนมานี่ สาเหตุที่กบเคยอยากจะหยุดด่า แต่กบก็ยังหยุดไม่ได้ เพราะทุกวัน เวลากบมาเช็คเมล์ กบเจอแต่คนส่งอีเมล์มาด่า แบบว่าด่าสาดเสียเทเสีย เหมือนกะเทยเก็บกดที่ไหนก็ไม่รู้ มาด่าได้ด่าดี ด่าได้ทุกวัน ไม่เคยซ้ำ ไม่อยากจะปักใจเชื่อว่าคนเดียว เพราะมันหลายอีเมล์มากๆ จริงๆถ้าจะด่าก็เมล์เดียวพอ แต่นี่หลายเมล์แสดงว่าหลายคน

นั่งคิดไำปคิดมา มีคนบอกว่า มีคนด่าเรามากๆ เราจะมีความสุขเหรอ ?

นั่นสิ เราจะไปมีความสุขได้ยังไง แต่ไอ้ครั้นจะออกมาแจงให้เลิก คงยาก

ทุกวันนี้ น้องๆในบอร์ดหลายคนที่เคยเกลียดกบ หลายคนได้คุยก็เข้าใจมากขึ้น ดีใจนะ กบเชื่อว่าเวลาจะเยียวยาความคิดคนได้ กบไม่หวังให้คนมาชื่นชมกบเป็นนางฟ้านะ แต่แค่หวังให้คนที่ยังไม่รู้จักกบได้ลองเข้ามาสัมผัสจริงๆดีไหม เพราะเอาเข้าจริงๆ กบไม่เคยพูดถึงคนอื่นๆเลย

ส่วนเรื่องราวของนางงาม หรือพฤติกรรมบางอย่างที่ไม่ดีของตัวนางงามเอง พี่เลี้ยงบ้าง กบก็พูด แต่พูดน่ะ เพราะรักวงการนี้ เจอเรื่องเน่าๆ เราไม่อยากให้มันเงียบ อยากตคแผ่ แต่สุดท้ายคนเจ็บตัวคือตัวเราเองนี่แหละ เอาเถอะ สู้ต่อไปละักัน นี่กบปลอบตัวเองนะเนี่ย

วันพุธที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ยิ้มสู้ !


มีคนชอบมาบอกแกมขู่จังว่า ปีหน้าเผาจริงนะมึง กบฟังแล้วแอบหวั่นๆเหมือนกันนะคะ เพราะสถานการณ์รอบๆตัวตอนนี้มันเริ่มมีสัญญาณตุตุออกมามากมายเหลือเกิน เริ่มแรกที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ คู่ค้าของบริษัทที่กบทำงานให้ มีมาตรการใหม่ในการกำหนดวันรับเช็ค จากเดิมเครดิต 30 เลื่อนเป็น 60 บางรายถ้ายาวถึง 90 กบก็บอกว่ากบไม่เอา เพราะมันไม่ไหวจริงๆ

แต่ที่แย่กว่านั้น ลูกค้า่หลายรายเก็บตังไม่ได้ โทรไปก็บ่ายเลี่ยงตลอด เดี๋ยวนี้ใน 1 วัน กบจะต้องมีเวลาอีกประมาณ 1 - 1ชั่วโมงคร่ึง ที่จะต้องโทรไปคุยกับลูกค้าเรื่องเก็บตัง มันใช่เรื่องของเราไหมเนี่ย เพราะบัญชีมันเอาไม่อยู่จริงๆ

มีคนบอกว่าถ้าเศรษฐกิจมันตกต่ำลงมาจนถึงก้นเหวสุดๆแล้ว มันจะดีขึ้นเอง ใช่สิ นี่มันหลักการแบบตรรกะมากๆ มันจะต่ำไปกว่านี้ได้ยังไง นักเศรษฐศาสตร์เค้าก็เชื่อกันอย่างนี้

แต่ในวัีนนี้ สิ่งนึงที่กบสัมผัสได้ก็คือ จิตใจคน และก็น้ำใจคนในยุคนี้ กบว่ามันเริ่มดูจะน้อยลงๆๆ แบบยังหาก้นเหวไม่ค่อยจะเจอเท่าไหร่ บ้านเราเป็นอู่ข้าวอู่น้ำ สมัยก่อนร้านก๋วยเตี๋ยวข้างบ้านกบ ชามละ 20 บาท น้ำแข็งเปล่าฟรี มีน้ำชา 1 เหยือก ไว้เติมกินกันไป

ล่าสุด ก๋วยเตี๋ยว 1 ชาม 30 บาท น้ำแข็งเปล่า 2 บาท น้ำดื่มขวดๆละ 12 บาท จากเดิมสมมุติว่า 1 อิ่ม จ่าย 20 บาท ของใหม่จะต้องจ่ายถึง 44 บาท ถ่้าเทียบแล้วเท่ากับว่ามื้อนี้เราจ่ายแพงกว่าเดิม 120% นี่คือค่าใช้จ่ายที่มันสูงขึ้น พร้อมกับน้ำใจคนไทยที่หายไป

เราเคยขับรถไปกลางทางแล้วรถตายไหม เคยเห็นไหม ว่าใครมาช่วยเรา ส่วนใหญ่จะเป็น Taxi นะ เค้าช่วยเรา เราก็ให้ตังเค้าเป็นสินน้ำใจ ส่วนใหญ่ไม่เอานะ เคยเห็นรถเก๋งหรือรถเบนซ์มาช่วยไหม ไม่ค่อยมีนะ แล้วถ้า Taxi ตายล่ะ รถเก๋งอย่างเราจะช่วยไหม ก็ไม่ค่อยช่วยนะ Taxi ด้วยกันเองนั่นแหละช่วยกัน

คนรวยน่ะมองว่าคนจนมีน้ำใจ แต่คนรวยคงไม่ลงมาช่วยคนจนหรอก นี่ไง น้ำใจคนไทย คนรวยคนจน

เวบ T-pageant ของกบ ปีหน้าจะรบ 2 ปี จะขึ้นสู่ปีที่ 3 แล้ว กบเองก็ยังไม่รู้ว่า ถ้าสถานการณ์เป็นแบบนี้ เราจะได้อยู่ด้วยกันอีกนานไหม แต่สถานการณ์แบบนี้ ยังไงกบก็เต็มที่แหละ สู้ๆ เพราะที่นี่เป็นบ้านที่เพื่อนกบ(ในโลกไซเบอร์) เยอะมาก และกบเองก็ใช้เวลาในนี้วันนึงเยอะมากเสียด้วย

วันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ผันหอยเป็นเงินหยวน


ตอนนี้นักโทษหนีคุกชายคนนึง มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ เป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรีกำลังหนีคุกอยู่ที่เมืองจีน จะว่าไป กบเองก็เลยอดที่จะนึกถึงท่านไม่ได้ สมัยอยู่เมืองไทย ท่านก็ฟาดหอยดาราเรียบวุดเหมือนกันนะ แต่จะว่าไป อยู่เมืองจีนนี่ก็ใช่ว่าจะหาหอยสวยๆจากเมืองไทยไปให้ฟาดไม่ได้ จริงไหมคะ เพราะเมืองจีนนี่อาแปะตัณหากลับเงินถุงเงินถังพร้อมจะเปย์เงินหยวนง่ายๆ ขอเพียงเป็นหอยดีมีระดับ มีการันตี มีใบเซอร์หน่อยว่า หอยนี้ม่ชาติตระกูล ถ้าเป็นดารา ก็ให้เอา VCD โชว์ผลงานเจ้าของหอยมาดูประกอบการส่วว่าวก่อนจะเจอหอยจริงก็ยังดี

ส่วนหอยบางตัว ไม่มีใบเซอร์ ไอ๊หย๋า อาแปะม่ายอาว สวยยังไงก็ไม่อาว สวยระดับนางงามแปะยังม่ายอาวเลย ก็ต้องหาตำแหน่งให้หอยเอาไว้การันตีอาแปะอีสักหน่อย

จะว่าไป ช่วงหลังๆเจอหอยย้อมแมวเสียบ่อย อาแปะหลายๆคนที่เมืองจีนพิสมัยหอยนางงาม ก็ไม่หนำใจ ก็เลยจัดประกวดนางงามระดับนานาชาติที่เมืองจีนมันเสียเลย จริงๆโดยหลักการบางเวทีมันก็ดี แต่บางเวทีก็แอบยัดไส้เอาเด็กไปค้าหอยถึงขอบเวทีด้วย

ดูอย่างพี่เลี้ยงเมืองไทยสิ ส่งนางงามน้องนาบ้านนาอยู่ดีดี ได้โกอินเตอร์ส่งหอยออกนอกไปไกลถึงเมืองจีน นัยว่าแฟนๆนางงามบอกว่าพี่เลี้ยงทำเพื่อชาติ แต่ไม่รู้เพื่อชาติหรือองคชาติอาแปะ ลำพังค่าลิขสิทธิ์ที่จะต้องส่งนางงามไปประกวดก็แพงบานตะเถือก ไหนจะค่าเสื้อผ้าเครื่องแต่งตัว สปอนเซอร์เมืองไทยรึก็ใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ

อีหนูเอ๊ย ไปประกวดแล้วก็หาค่าขนมกลับบ้านมาด้วย

ด้วยเหตุประการฉะนี้ ด้วยประการทั้งปวง ไม่ต้องแปลกใจเลย จะเห็นสองสาวหน้าแฉล้มที่เคยประกวดไำปแล้วจนค้างปี ก็ยังวนๆเวียนๆไปๆมาๆเมืองไทยเมืองจีนอยู่แบบนี้

ว่าแต่ว่า หอยตัวล่าสุดที่ส่งไป อาแปะอีบอกว่า เจี๊ยะบ่โละน่อ เพราะหอยอีโอคั่กๆ(ดำมักมาก)

Bolivia ใน Quantum Of Solace



Quantum Of Solace คือชื่อตอนล่าสุดของหนังชุดเจมส์บอนด์ที่กำลังเริ่มที่จะออกฉายทั่วโลก โดยดูเหมือนจะมีคนบอกว่า ประเทศไทยของเราเป็นประเทศแรกๆของโลกที่จัดฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยที่กบเองก็ได้ไปดูมาเมื่อวานนี้เองค่ะ จะว่าไปถือว่ากบก็เป็นคนแรกๆของโลกเลยสิคะเนี่ย ที่ได้ดูหนังชุดเจมส์บอนด์ตอนล่าสุดกะเค้า

จะเพราะว่าเราเป็นประเทศแรกๆในโลกรึเปล่านะที่ได้ดู ก่อนเริ่มฉายเลยมีอินโทรขึ้นจอดำตัวหนังสือขาวมาบอกว่า ห้ามลักลอบแอบถ่าย เพราะเป็นประเทศแรกๆของโลกที่ได้ดู กบบอกตรงๆ มันเหมือนเป็นการตอกย้ำในความเป็นประเทศที่ชอบละเมิดลุขสิทธิ์ของบ้านเรายังไงชอบกล โดยส่วนตัวกบไม่เคยอุดหนุนแผ่นผีนะคะ กบจะใช้โหลดเอามากกว่า อิอิอิ

มาเข้าเรื่องดีกว่า ความเป็นบอนด์ของภาคนี้อาจจะไม่ค่อยเหมือนเดิมนัก เพราะบรรดาอาวุธไฮเทคมีน้อยลงมาก แทบจะไำม่มีเลย ความกรุ้มกริ่มกับสาวๆของบอนด์ในภาคนี้ก็ไม่ค่อยมี

แต่ความมันส์ สนุกสนาน ตื่นเต้น ความดิบความเถื่อนของบอนด์ในยุคใหม่นี้กบว่าเกินร้อย หนังดูสนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกกก

เอกลักษณ์ของบอนด์คือมันเดินสายตามล่ากันทั่วโลกจริงๆ โดยแกนหลักของเรื่องนี้อยู่ที่ โบลิเวีย

ประเทศที่มีนายทหารปกครองประเทศ ได้อำนาจมาจากการรัฐประหาร และที่สำคัญนายทหาร ผู้ปกครองประเทศกำลังจะมีนโยบายให้สัมปทนาสิทธิครอบครองเหนือทะเลทรายที่เป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ของโบลิเวัียร์ โดยค่าใช้จ่ายเกินกว่าครึ่งของชาวโบลิเวียร์คือการต้องนำไปซื้อน้ำสะอาดดื่ม

ผู้ปกครองประเทศขายสัมปทานบนทะเลทราย ที่มีแหล่งน้ำขนาดใหญ่ซ่อนอยู่ข้างใต้ ไม่ต่างอะไรกับการขายสัมปทานให้ทุนใหญ่เข้ามาขูดเลือดขูดเนื้อกับชาวโบลิเวียร์ เราจะเห็นได้ว่า

นี่คือประเทศโบลิเวีย ที่ผู้คนยากจน ถนนหนทางยังดูแย่กว่าไทยเสียอีก แต่มีผู้นำประเทศที่ขายชาติ สิ่งที่ผุ้นำทำได้คือ ประชานิมยม แต่ประชาชนก็ยังยากจนมากๆ

ดูแล้วอดคิดถึงไทยเราไม่ได้นะคะ ผู้นำประเทศวูเอี๋ยกับทุนใหญ่อย่างอเมริกา เอาคำว่า ประชาธิปไตยมาบังหน้า

หารู้ไม่ว่า ทุนใหญ่มันคุยได้หมดแหละ ไม่ว่าจะรัฐบาลเผด็จการ หรือ ผู้รักประชาธิปไตย ขอให้มันได้ประโยชน์สูงสุดก็พอ...

วันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

สวยเป็นที่ประจักษ์



วงการนางงามระดับโลกของเราก็ได้ Miss International 2008 คนใหม่มาประดับโลกเรียบร้อยแลเวอีกหนึ่งคน โดยชื่อของเธอก็คือ Alejandra Andreu สาวน้อยจาประเทศเสปน รูปร่างหน้าตาก็ดังที่เห็นในภาพนั่นแหละค่ะ

จะว่าไป ความงามของสาวน้อยคนนี้ กบขอชื่นชมมากๆในแง่ของความงามที่มีนิยามคำจำกัดความว่า สวยเป็นที่ประจักษ์ นั่นคือ สวยแบบสากล ใครมองก็ต้องชมว่าสวย ชมได้แบบไม่มีข้อโต้แย้ง

ไม่เหมือนนางงามบางคนที่พวกพี่เลี้ยงผีสาง พยายามจะชอบออกมาเป่าหูว่า เนี่ย สวยแบบนี้คนไทยไม่ชอบนะ แต่ฝรั่งบอกว่า สวยมากกกกกกกกกกกก เหมือนนางฟ้า แตะต้องไม่ได้ เกดินเอื้อม แต่คนไทยเค้าเรียกแบบหนูว่า หน้าผี นะคะ เพราะหนูเขลอะมาก หัวเข่าดำ ผิวกระดำกระด่าง แขนใหญ่ นมไม่มี

ว๊ายยยยยยยยยยย ว่าจะไม่แขวะหน้าผีแล้วเชียว

เอาเป็นว่าเรากลับมาคุยเรื่อง สวยเป็นที่ประจักษ์ต่อดีกว่า บรรดานางงามของไทยเรา ในสายตากบ ที่กบมองว่าสวยเป็นที่ประจักษ์เอาเข้าจริงๆก็มีเยอะนะคะ อาทิเช่น เขี๊ยบ เยาวลักษณ์ ไตรสุลักษณ์ , นุสรา สุขหน้าไม้ , กวาง ฟ้ารุ่ง ยุติธรรม และคนล่าสุด น้องมิ้ม อัมราภัสร์ จุลกะเศียน สาวน้อยที่กำลังจะบินไปประกวด Miss World ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า่

จะว่าไป โดยพื้นฐาน หญิงไทยเราน่ะ กบว่าความสวยอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างสูงนะ คือจริงๆสาวไทยน่ะสวย แต่อาจจะขาดในแง่บุคลิกภาพ ความมาดมั่น และรูปร่างที่ยังไม่ค่อยเฟิร์ม รวมไปถึงจริตแบบสากล ที่มันทำให้เราไปสู้เค้ายังไม่ค่อยได้

หน้าสวยอาจจะเหมือนมีชัย แต่บุคลิกภาพก็สำคัญไม่แพ้กันนะคะ

เอาเป็นว่าวันนี้ สดชื่น ยินดีกับสาวเสปนคนนี้ดีกว่า เพราะเธอ สวยเป็นที่ประจักษ์ จริงๆ มองแล้วสบายตาดีนะคะ